ผู้ว่าฯกทม.ตรวจความพร้อมรพ.สนามบางกอกอารีน่าเขตหนองจอกสถานที่กักตัวผู้ตรวจพบติดเชื้อโควิดแต่ไม่มีอาการเปิดให้บริการพรุ่งนี้ พบมีสิ่งอำนาจความสะดวกครบครันอาหาร 3 มื้อ สัญญาณ Wifi ระบบรปภ.

เมื่อวันที่ 18 เมษายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม (เอราวัณ 2) หลังถูกปรับปรุงระบบต่างๆ เพื่อดัดแปลงเป็นโรงพยาบาลสนาม ไว้รองรับผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเขตกทม. ณ โรงพยาบาลสนาม (เอราวัณ 2) สนามบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ 400 เตียง แบ่งเป็น ชาย 150 เตียง หญิง 250 เตียง พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 19 เม.ย. โดยได้รับการสนับสนุนเตียงกับมุ้งจาก SCG ชุดเครื่องนอนจากกลุ่มบริษัท ที่นอนโลตัส และผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคอื่น ๆ อาทิ น้ำดื่ม ของใช้จำเป็น เป็นต้น

สำหรับ ผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ ที่เรียกว่าโควิดเขียวให้มาดูแลรักษาและติดตามอาการที่โรงพยาบาลสนาม แต่หากมีอาการโควิดเหลืองหรือโควิดแดงจะส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษาต่อไป นอกจากนี้ได้มีการอำนวยความสะดวกในเรื่องอื่น ๆ เช่น อาหาร 3 มื้อ สัญญาณ Wifi รวมไปถึงการดำเนินการป้องกันการติดเชื้อทำเต็มรูปแบบตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่ กทม.พร้อมดูแลประชาชนเต็มที่ในทุกด้านรวมไปถึงรักษาความปลอดภัย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอดเวลา ทั้งสำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ในพื้นที่ รวมถึง รปภ. ของศูนย์ด้วย นอกจากนี้ในส่วนของผู้ติดเชื้อที่จะพักอาศัยในโรงพยาบาลสนามจะมีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งรายละเอียดก่อนเข้าพัก มีคิวอาร์โค้ดและแผ่นพับให้สแกนดูรายละเอียดการปฏิบัติตนด้วย

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กรณีที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กังวลว่า มีการรับผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะเกิดการรับเชื้อใหม่นั้น อยากให้เข้าใจว่า ถึงแม้การรับตัวผู้ป่วยโควิด-19 มาดูแลรักษาไม่พร้อมกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการหรือทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า มีการติดเชื้อข้ามสายพันธุ์ในคน อีกทั้งโรงพยาบาลสนามของกทม.มีการดำเนินการตามเกณฑ์มาตรฐาน อาทิ เตียงห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามจับกลุ่มกัน และปฏิบัติตามหลัก DMHTT โดยก่อนเข้าพักเจ้าหน้าที่จะทำความเข้าใจกับผู้ติดเชื้ออย่างชัดเจน หากผู้ติดเชื้อมีความประสงค์มาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามของกทม.แจ้งได้ที่ศูนย์เอราวัณ โทร. 1669 หากไม่สะดวกเดินทางมาเองกทม.มีรถไปรับ แต่หากมีความประสงค์เดินทางมาเองให้โทรประสานที่ 1669 ก่อนว่า มีที่ไหนว่างบ้างจะได้ไม่เสียเวลา กรณีเป็นของกระทรวงสาธารณสุขให้โทร. 1330 หรือ 1668

ทั้งนี้ กทม.ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดที่มีจำนวนมากขึ้น โดยแบ่งแผนการรับผู้ป่วยออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 การเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดกทม.ให้รองรับผู้ป่วยโควิดให้มากขึ้น ทั้งในโรงพยาบาลในสังกัดกทม.และนอกสังกัด ระดับที่ 2 การเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการ (Hospitel) สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ให้รักษาตัวในโรงแรมที่จัดหาไว้ให้ และระดับที่ 3 จัดทำโรงพยาบาลสนามเต็มรูปแบบเพื่อรองรับผู้ป่วย โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน รองรับได้ 500 เตียง ใช้ไปแล้ว 480 เตียง ยังว่างอยู่ 20 เตียง (จะเพิ่มเตียงรองรับอีก 500 เตียง ในวันที่ 19 เม.ย. 64) โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตทวีวัฒนา รองรับได้ 250 เตียง ใช้ไปแล้ว 164 เตียง ว่าง 36 เตียง และที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บางบอน เขตบางบอน (โรงพยาบาลเอราวัณ 1) รองรับได้ 100 เตียง รพ.กลาง 110 และเอราวัณ 2 อีก 400 เตียง เบื้องต้นมีเตียงโรงพยาบาลสนามรวมทั้งหมด 1,860 เตียง คาดว่าเพียงพอกับผู้ติดเชื้อโควิด-19

สำหรับ ผู้ป่วยที่จะเข้ารักษา ที่โรงพยาบาลสนาม ขอให้เตรียมพร้อมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการมาอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ได้แก่ เสื้อผ้า จำนวน 4-5 ชุด หรือพอดีกับจำนวนที่เข้าพัก 14 วัน ของใช้ในกิจวัตรประจำวัน เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน และอื่น ๆ ที่จำเป็น โดยเฉพาะผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิง ยารักษาโรคประจำตัว รวมทั้งข้อมูล ประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิม(ถ้ามี) โทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ ใช้สำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไลน์ ในการติดต่อหอผู้ป่วยในการสื่อสารขณะรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนาม และสามารถนำกระติกน้ำร้อนมาเองได้