ผู้เห็นเหตุการณ์เพลิงไหม้ภายในหมู่บ้านกฤษฎานคร 31 ให้การพนักงานสอบสวนแล้ว ตำรวจเตรียมนำเซิฟเวอร์ 3 ตัวเพื่อตรวจภาพกล้องวงจรปิด ไม่ทิ้งปมถูกวางเพลิงหลังเจ้าของบ้านโพสต์เคยถูกขู้เผาบ้านมาแล้วจากเหตุฝักใฝ่การเมือง
เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ต.อ.ชาญฤทธิ์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สน.ธรรมศาลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.พนภัสส์ คุมพล ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.7 และพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา สอบปากคำตัวแทนเจ้าของบ้านและผู้พักอาศัยบ้านเพลิงไหม้จนอาคารทรุดตัวถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ภายในหมู่บ้านกฤษฎานคร31 เขตทวีวัฒนา กทม. เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในประเด็นติดใจสงสัยเบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นเปลวไฟลุกขึ้นจากป้อมยามเก่า ภายในนั้นมีท่อพีวีซี ปั๊มลม เสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา ทำให้ถังลมระเบิด เผาเบาะรถตู้ ก่อนลุกลามอุปกรณ์ว่ายน้ำ ที่เป็นโฟมและพลาสติกอยู่ในตัวบ้าน โดยขณะเพลิงลุกไหม้ช่วยกันใช้โฟมฉีดและลูกบอลดับเพลิงแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากแรงถังปั๊มลมทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวติดตั้งกล้องวงจรปิดตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงในตัวบ้าน มีตู้เก็บเซิฟเวอร์ 3 ตัว อยู่บริเวณฝั่งซ้ายตัวบ้านคาดว่าไม่ถูกเพลิงไหม้ จึงต้องรอการรื้อถอนเพื่อนำเซิฟเวอร์กล้องออกมาตรวจสอบภาพต่อไป
ขณะที่ ฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา เข้าทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ บริเวณเส้นทาง 3 ทาง ที่เข้ามาบ้านที่เกิดเหตุเพื่อคลายประเด็นสงสัยกรณีอาจถูกวางเพลิง เนื่องจากเจ้าของบ้านโฟสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเคยถูกขู่วางเพลิงมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากการฝักใฝ่การเมือง