BKK NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

22 พฤศจิกายน 2563 : 21:24 น.

กทม.แจงยิบห้ามรถบรรทุก 10 ล้อรวมถึง 6 ล้อวิ่งในพื้นที่ชั้นในเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อีกทั้งขยายเขตพื้นที่จำกัดจากถนนวงแหวนรัชดาภิเษกเป็นถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกด้วย

นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ รักษาราชการแทน ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม.และประเด็นคำสั่งห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่กทม.เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า กทม.ได้จัดทำร่างแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม. ซึ่งเป็นไปตามมาตรการในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม. ซึ่งมีผู้ว่าฯกทม. เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบและมอบหมายให้ทุกหน่วยงานพิจารณาดำเนินการตามภารกิจที่ได้เสนอมา

ทั้งนี้ ข้อมูลแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM 2.5 กรมควบคุมมลพิษร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ได้ศึกษาสัดส่วนการก่อปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จากแหล่งกำเนิดประเภทต่างๆ ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เมื่อปี พ.ศ. 2561 พบว่า สาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ที่มีแหล่งกำเนิดหลักมาจากภาคการขนส่งทางถนนที่มีการระบายฝุ่นละออง PM 2.5 มากที่สุดร้อยละ 72.5 (รถบรรทุก ร้อยละ 28 รถปิกอัพ ร้อยละ 21 รถยนต์นั่ง ร้อยละ 10 รถบัส ร้อยละ 7 รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 5 และรถตู้ ร้อยละ 1.5) รองลงมาได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม ร้อยละ 17 การเผาในที่โล่ง ร้อยละ 5 และอื่นๆ ร้อยละ 5.5

นายวิรัตน์ กล่าวว่า ประเด็นห้ามไม่ให้รถบรรทุกวิ่งเข้ามาในพื้นที่กทม.ในช่วงวิกฤตปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รุนแรง ที่ประชุมได้เห็นชอบและมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรกำหนดเวลาห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในเขตพื้นที่ภายในของถนนวงรอบพื้นที่ชั้นในกทม.(ถนนวงแหวนรัชดาภิเษก) โดยขอให้พิจารณาเพิ่มเติมห้ามเดินรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อ ขึ้นไปในข้อบังคับดังกล่าวด้วย รวมทั้งขอให้พิจารณาเพิ่มเติมข้อบังคับฯ โดยขอให้พิจารณาขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้ากทม.จากถนนวงแหวนรัชดาภิเษกเป็นถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างพิจารณาออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับผลกระทบ กทม.จะหารือและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาหาแนวทางเพื่อลดผลกระทบต่อไป โดยอาจเป็นในรูปแบบการจัดหาจุดพักรถที่เหมาะสมให้กับรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ที่ต้องจอดรอในช่วงเวลาที่มีคำสั่งห้ามเข้าพื้นที่กทม.เพื่อป้องกันปัญหาการจอดรถกีดขวางการจราจร

นอกจากนี้ กทม.ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง โดยบูรณาการความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อควบคุมฝุ่นละอองที่แหล่งกำเนิด ด้วยการเข้มงวดการตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท

"ขอความร่วมมือประชาชน พบเห็นรถยนต์ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน หรือการเผาในที่โล่งให้แจ้งสายด่วนกทม. 1555 เพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ยังได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกทม.ให้ร่วมปฏิบัติตามมาตรการลดมลพิษทางอากาศ"นายวิรัตน์ กล่าว

สำหรับ ประชาชนสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กทม. ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ เว็บไซต์ www.bangkokairquality.com, www.air4bangkok.com, www.prbangkok.com รวมทั้ง Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม Facebook : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ และแอปพลิเคชัน AirBKK เพื่อศึกษาข้อมูลคุณภาพอากาศ และนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ////

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ