ปลัดกทม.สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ทั่วกรุง หวั่นหักโค่นล้มช่วงพายุลมแรง สร้างคตวามไม่ปลอดภัยให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกรณีต้นมะขามเก่าแก่ริมรั้ววัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามหักโค่นเกี่ยวเสาไฟฟ้าล้มจำนวน 9 ต้น จากเหตุฝนตกหนักลมกระโชก เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดฝนตกและลมกระโชกแรงในพื้นที่กทม.ทำให้เสาไฟฟ้าบริเวณแยกวัดเบญจมบพิตรฯ ถ.ศรีอยุธยา เขตดุสิต หักโค่นเสียหายหลายต้น ส่งผลให้ต้องปิดการจราจรชั่วคราว ตั้งแต่แยกวัดเบญจมบพิตร - แยกลานพระบรมรูปทรงม้า จากการตรวจสอบพบเสาไฟฟ้าขนาด 8 เมตร ล้ม 2 ต้น เสาไฟฟ้าขนาด 12 เมตร ล้ม 7 ต้น รวมทั้งหมด 9 ต้น จึงต้องปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้สัญจรไปมา
ทั้งนี้ สาเหตุคาดเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้พื้นดินมีความชื้น จนต้นมะขามขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปีที่ปลูกอยู่ริมรั้ววัดเบญจมบพิตรฯ โค่นล้มทั้งต้นจนรากลอยขึ้นมาจากพื้น ทำให้กิ่งไม้ไปเกี่ยวสายไฟที่อยู่ใกล้เคียง เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าที่อยู่หัวมุมวัดหักตัวก่อนจะดึงเสาไฟฟ้าต้นอื่นหักเอียงลงมาขวางถนน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมแก้ไขและเปิดการจราจรได้เป็นปกติตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย.
สำหรับ มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยและดูแลรักษาต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ในพื้นที่ ได้มอบหมายสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตสำรวจตรวจสอบภายในพื้นที่เขตอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการหักโค่นล้ม หรือเหตุที่อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชน รวมทั้งประสานความร่วมมือในการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของต้นไม้ รวมถึงสภาพพื้นที่โดยรอบของต้นไม้ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายต่างๆ โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยงในการหักโค่นล้มในช่วงที่เกิดพายุฝน หรือลมกรรโชก เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน