ปลัดกทม.เตรียมประสานตำรวจนครบาลและกองทัพภาค 1 กวดขัน 8 สถานที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มโควิด-19 อย่างเคร่งครัดหากพบเชื้อกลับมาระบาดอาจต้องยกเลิกมาตรการผ่อนปรน
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์ฯ โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
สำหรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 29 เม.ย.ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น จำนวน 4 คน ยอดผู้ป่วยสะสม รวมจำนวน 1,488 คน ผู้ป่วยรักษาหายสามารถกลับบ้านได้เพิ่มเติม จำนวน 4 คน ยอดรวมผู้ป่วยรักษาหาย จำนวน 1,358 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 106 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 24 คน ในส่วนผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านคัดกรองการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเดิมมีการจัดตั้งด่านคัดกรองฯ ทั้งสิ้น 13 ด่าน ปัจจุบันได้ยกเลิกการปฏิบัติแล้วทั้งหมด โดยผลการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-28 เม.ย. ปรากฎดังนี้ เรียกตรวจยานพาหนะ รวมทั้งสิ้น 286,148 คัน ตรวจคัดกรองบุคคล รวมทั้งสิ้น 602,057 คน พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งสิ้น 70 คน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเตรียมผ่อนปรน 8 สถานที่นั้นให้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองทัพภาคที่ 1 เพื่อร่วมกันดูแลให้สถานประกอบกิจการในพื้นที่ ปฏิบัติตามมาตรการที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนดโดยเคร่งครัด เนื่องจากหากมีการแพร่ระบาดเพิ่มเติมภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการ อาจมีความจำเป็นต้องยกเลิกมาตรการผ่อนปรน เพื่อลดการสูญเสียและป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดลุกลามจนยากต่อการควบคุม โดยกรุงเทพมหานครจะจัดทำวิดีโอตัวอย่างการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนของสถานที่ สถานประกอบการ กิจการแต่ละประเภท เพื่อเผยแพร่สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนอีกทางด้วย