สภากทม.นำคณะลงพื้นที่สำรวจ 3 ประตูระบายน้ำรอบเกาะรัตนโกสินทร์ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม หวังส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในอนาคต
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายไพฑูรย์ ขัมภรัตน์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาข้อเท็จจริง และกฎหมายที่ใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นในและพื้นที่ต่อเนื่องกัน พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำคลองโอ่งอ่าง ประตูระบายน้ำวัดราชบพิธ (คลองโอ่งอ่าง) และสถานีสูบน้ำเทเวศน์ เพื่อศึกษาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพของการระบายน้ำและการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อส่งเสริมให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า เป็นการลงพื้นที่ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ประตูน้ำดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับพร่องน้ำเข้า - ออก ในคลองรอบกรุงหรือคลองชั้นกลาง และคลองผดุงกรุงเกษมหรือคลองชั้นนอกของเกาะรัตนโกสินทร์ โดยสถานีสูบน้ำและประตูระบายแต่ละแห่ง จะทำการควบคุมระดับน้ำอย่างสัมพันธ์กันทั้งหมด เพื่อให้น้ำในคลองมีระดับที่พอดีไม่น้อยหรือมากเกินไป ทำให้การสัญจรทางน้ำสามารถทำได้อย่างปกติ อีกทั้งจะสามารถพร่องน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กทม.มีแผนจะทำการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองโอ่งอ่าง โดยเพิ่มอัตราสูบน้ำจากเดิม 3 ลบ.ม./วินาที เป็น 6 ลบ.ม./วินาที สถานีสูบน้ำเทเวศร์ จากเดิม 15 ลบ.ม./วินาที เป็น 18 ลบ.ม./วินาที และจะเสริมเครื่องมือระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำวัดราชบพิธ (คลองโอ่งอ่าง) 0.5 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการระบายน้ำและดูแลรักษาน้ำในคลองให้มีคุณภาพใสสะอาดอย่างยั่งยืน นอกจากนี้จะปรับปรุงภูมิทัศน์ตามแนวคลองให้มีความสวยงาม เพื่อพัฒนาเกาะรัตนโกสินทร์แห่งนี้ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในอนาคต