มหาดไทยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เชิญสื่อมวลชนเข้ารับฟังขั้นตอนพิธีการ
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นวิทยากรในการบรรยาย หัวข้อ “แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์และพิธีทำน้ำอภิเษก” ในการอบรมเชิงปฏิบัติการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 ครั้งที่ 2 จัดโดย คณะอนุกรรมการด้านสารัตถะและสร้างสรรค์ผลิตสื่อในคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร่วมกับ กสทช. โดยมี สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ผู้ประกอบกิจการโครงข่าย ผู้ประกาศข่าว และผู้บรรยายข่าว เข้ารับการอบรมจำนวน 160 คน
นายพรพจน์ เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ เพื่อช่วยดำเนินการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้แจ้งให้ทุกจังหวัด สำรวจและบำรุงรักษาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพเลื่อมใส แหล่งน้ำที่เคยใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ให้คงอยู่ในสภาพที่ใสสะอาด และดำเนินการพัฒนาภูมิทัศน์โดยรอบ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม มีความพร้อมที่จะนำน้ำไปประกอบพิธีสำคัญ
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายและเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดทำน้ำอภิเษกของทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้ไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจและติดตามความพร้อมของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำอย่างต่อเนื่อง สำหรับ กำหนดการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ ได้กำหนดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 เม.ย. 2562 ฤกษ์เวลา 11.52-12.38 น. ณ แหล่งน้ำศักดิ์ของทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมจำนวน 107 แหล่งน้ำ แบ่งเป็น 1.จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 1 แห่ง 60 จังหวัด 2. จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 2 แห่ง 7 จังหวัด 3. จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 3 แห่ง 5 จังหวัด 4. จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 4 แห่ง 3 จังหวัด และ 5.จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 6 แหล่งน้ำ 1 จังหวัด ยกเว้นกทม.จะประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำในวันที่ 12 เม.ย. 2562 ณ หอศาสตราคมในพระบรมมหาราชวัง รวมทั้งสิ้น 108 แห่ง
นอกจากนี้ มีแหล่งน้ำสรงมุรธาภิเษก จำนวน 9 แหล่งน้ำ ได้แก่ สระศักดิ์สิทธิ์ 4 สระ คือ สระแก้ว สระคา สระยมนา และสระเกษ ในอ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี และน้ำจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 5 สาย คือ แม่น้ำบางปะกง ตักที่บึงพระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แม่น้ำป่าสัก ตักที่บริเวณบ้านท่าราบ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี แม่น้ำเจ้าพระยา ตักบริเวณปากคลองบางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง แม่น้ำราชบุรี ตักบริเวณสามแยกคลองหน้าวัดดาวดึงษ์ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และแม่น้ำเพชรบุรี ตักบริเวณท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า จะประกอบพิธีต่าง ๆ ได้แก่ 1.พิธีทำน้ำอภิเษก ในวันจันทร์ที่ 8 เม.ย. ฤกษ์เวลา 17.10-22.00 น. ณ สถานที่ตามที่จังหวัดกำหนด 2.พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันจันทร์ที่ 9 เม.ย. เวลา 10.00-12.00 น. 3.การเชิญคนโทน้ำอภิเษกของจังหวัดมาเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย ในวันพุธที่ 10 เม.ย.เวลา 06.00-18.00 น. ยกเว้นกทม.จะประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ ณ หอศาสตราคม ในพระบรมหาราชวังในวันที่ 12 เม.ย.พร้อมเชิญคนโทน้ำมาเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย และจะมีการซ้อมเดินริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกในวันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย.โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมซ้อมเดินริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกในเวลา 06.00 น. จากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม และจากวัดสุทัศนเทพวรารามไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย. เวลา 08.30 น. กระทรวงมหาดไทยจะมีการจัดริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม และในเวลา 15.00 น. จะเป็นการประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ณ วิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. เวลา 06.30 น. จะจัดริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศนเทพวราราม ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
นายพรพจน์ กล่าวว่า รมว.มหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมในการจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด ด้านพิธีพลีกรรมตักน้ำ ด้านพิธีทำน้ำอภิเษก และด้านการเชิญคนโทน้ำอภิเษก โดยกระทรวงมหาดไทยจะให้การสนับสนุนจังหวัดทุกประการเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ