'สนธิรัตน์' มั่นใจ พปชร.กระแสดี เชื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมย้ำ ค่าแรง 400 ทำเป็นขั้นตอนใน 3 ปีเมินคู่แข่งร้องสกัด 'บิ๊กตู่' ลั่นยึดมั่นวิถีประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่สวนลุมพินี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จัดกิจกรรม “ Morning Run : พลังประชารัฐ” โดยมี นายสนธิรัตน์สนธิจิวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. และผู้สมัคร ส.ส.กทม. เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก โดยร่วมกิจกรรมออกกำลังกายกับชมรมต่าง ๆ อาทิ เต้นแอโรบิค รำไทเก็ก วิ่ง พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาของ กทม. กับประชาชนที่มาออกกำลังกาย

นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงนโยบายเพิ่มค่าแรงของพรรคว่า นโยบายของพรรคในเรื่องค่าแรงเป็นการยกระดับทุกภาคส่วนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การพิจารณาเรื่องค่าแรง 400- 425 บาท จะทำเป็นขั้นตอนภายในเวลา 3 ปีจะไม่เพิ่มภาระเพราะต้องมีการวัดทักษะฝีมือแรงงาน ขณะที่แรงงานต่างด้าวหากไม่ผ่านการทดสอบฝีมือก็อาจไม่ได้ปรับค่าแรงที่เท่ากันส่วนผู้ประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเราจะแก้ปัญหาโครงสร้าง ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคไม่แตกต่างกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงขอให้ผู้ประกอบการสบายใจได้ว่าเราจะยกระดับฝีมือแรงงานทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ระบุพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐจะส่งต่อต่อพรรคอย่างไรนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคยืนยันมาตลอดว่าดำเนินงานอยู่บนหลักการของกฎหมาย ซึ่งเป็นหัวใจที่สำคัญที่จะนำไปสู่ประชาธิปไตยและต้องเคารพความเห็น ไม่โต้แย้งกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตามเพราะประเทศต้องมีกติกา เมื่อมีคำตัดสินออกมาที่เกี่ยวข้องก็ต้องน้อมรับหลักการ และก็จะให้เดินหน้าต่อไป

เมื่อถามย้ำว่า กรณีนี้จะส่งผลกระทบต่อความนิยมนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เลขาธิการพรรค พปชร กล่าวว่าคิดว่าประชาชนแยกแยะออก ขอย้ำว่าเราต้องยึดหลักการบนหลักของกฎหมาย ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จี้ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ในการลงพื้นที่หลังจากนี้ 7 วันก่อนการเลือกตั้งที่อาจมีนัยแอบแฝงหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำหน้าที่ของท่านส่วนพรรคก็ทำหน้าที่ของพรรค ทั้งนี้ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง กระแสพรรคก็ยังดีอยู่ และดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด เรายังเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลซึ่งการจะจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องมีที่นั่งมากพอสมควร

เมื่อถามว่า กระแสของพรรควันนี้ยังมั่นใจว่าจะได้120ที่นั่งหรือไม่ นายสนธิรัตน์ ตอบว่ามั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่นีองประชาชน ส่วนจะได้คะแนนเสียงเท่าไรนั้นก็ต้องรอดูผลเลือกตั้ง ยืนยันว่าเราเคารพการตัดสินใจของประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคได้คะแนนมาเป็นลำดับ3 ยืนยันจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคยังยืนยันตามวิถีประชาธิปไตย โดยพรรคที่ได้ลำดับ1ก็ต้องเป็นผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่หากไม่สามารถที่จะทำได้ก็เป็นสิทธิของพรรคอันดับ2 และอันดับ3ที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป เมื่อถามว่า ยังจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศบอยคอต พล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคได้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า“ขอให้รอดูผลเลือกตั้ง ขอร้องว่าอย่าให้ประเทศไม่มีทางออกเลย”