กองปราบฯ รวบอดีตยากูซ่าหัวใสยัดไอซ์ใส่หัวไม้กอล์ฟให้เพื่อนขนกลับประเทศ แต่เพื่อนสงสัยแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อม พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. และตำรวจกองกำกับการ 1 บก.ป. แถลงผลจับกุม นายคาซูฮิโกะ โอโนะอายุ 57 ปี อดีตสมาชิกแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น ผู้ต้องหาความผิดฐานมียาเสพติดประเภท 1 (ยาอี, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และมียาเสพติดประเภท 5 (กัญชาแห้ง) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยว่า มีชาวญี่ปุ่นสงสัยว่าตนเองอาจถูกหลอกให้ขนยาเสพติด และได้แจ้งมายังสถานทูต ก่อนจะประสานงานกับทางกองปราบฯ เพื่อให้เข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพฤติกรรมการก่อเหตุพบว่า นายคาซูฮิโกะ ได้นำถุงกอล์ฟบรรจุไม้กอล์ฟจำนวน 7 ไม้ ออกจากคอนโดที่พักไปฝากให้กับเพื่อนที่กำลังจะเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น แต่เพื่อนคนดังกล่าวเกิดความสงสัย อีกทั้งยังพบว่า ไม้กอล์ฟมีน้ำหนักมากถึง 545 กรัม รวมถึงด้ามไม้และหัวไม้เป็นคนละยี่ห้อ จึงแจ้งไปยังสถานทูตดำเนินการประสานงานตำรวจเข้าตรวจสอบ จนพบวัตถุต้องสงสัยเป็นเกล็ดผลึกใสคล้ายยาเสพติดอัดแน่นอยู่ภายใน ก่อนจะพบว่าเป็นไอซ์ดังกล่าว
ต่อมาตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป. ได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมก่อนขอหมายศาลเข้าตรวจค้นที่พักของนายคาซูฮิโกะ ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง พบพยานหลักฐานสำคัญหลายรายการที่เชื่อมโยงและยืนยันการกระทำความผิด พร้อมของกลางยาเสพติดหลายรายการ จึงนำตัวนายคาซูฮิโกะส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พร้อมของกลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายคาซูฮิโกะรับสารภาพว่า ตนเป็นอดีตสมาชิกแก๊งยากูซ่า ชื่อ มัสซึบะ มิยางิ ซึ่งไม่ตรงกันกับข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นที่ระบุว่า เคยเป็นสมาชิกแก๊งนามิกาวะไค จึงคาดว่าคนร้ายยังคงกังวลว่าครอบครัวที่ญี่ปุ่นอาจได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม ยังมีหลักฐานยืนยันว่า เจ้าตัวอาจเป็นสมาชิกแก๊งยากูซ่าจริง เนื่องจากพบว่าที่นิ้วก้อยมือซ้าย ถูกตัดทิ้งตามธรรมเนียมหากปฏิบัติภารกิจล้มเหลว โดยเจ้าตัวอ้างว่าได้ทำการตัดเอง
สำหรับยาเสพติดที่พบในห้องพักนั้น นายคาซูฮิโกะอ้างว่ามีไว้เสพเอง และปฏิเสธไม่รู้เห็นว่าทำไมหัวไม้กอล์ฟจึงมียาซุกซ่อนไว้ดังกล่าว ทั้งนี้ นายคาซูฮิโกะ เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ด้วยวีซ่าเกษียณอายุถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้ประกอบธุรกิจปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง รวมถึงกิจการยาเสพติด โดยทำบริษัททัวร์บังหน้า