'สนธิรัตน์'นำทีมลุยหาเสียงย่านบางแค เผยโพลภายในกวาดเก้าอี้ ส.ส. กว่า 150 ที่นั่ง สัปดาห์หน้าเล็งปล่อยนโยบายเด็ด พร้อมยัน 'บิ๊กตู่'ลงพื้นที่ตรวจงานไม่เกี่ยวกับพปชร.

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 28 (บางแค) และทีมงาน ลงพื้นที่พบปะประชาชนบริเวณหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ถนนกาญจนาภิเษก เดินหาเสียงในตลาดหมู่บ้านสุขสันต์ 6 โดยชูสโลแกน "พลังประชารัฐ พลังมุ่งมั่น พลังบางเเค" รณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ พร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ บรรยากาศการเดินหาเสียงเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูป มอบดอกไม้ และให้กำลังใจตลอดเส้นทาง

ทั้งนี้ ขณะที่ทีมหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐเดินหาเสียงได้เจอกับ น.ส.เยาวภา บุรพลชัย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 28 พรรคชาติพัฒนา โดยทีมงานทั้งสองพรรคต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยกันเดินขอคะแนนเสียงให้กันอย่างฉันท์มิตร

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มีความมั่นใจว่าพรรคจะได้ ส.ส. ทั้งสองระบบมากกว่า 150 คน โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของพรรคที่ความนิยมพุ่งทะยานทั่วทั้งประเทศ อีกทั้งมั่นใจว่ามีตัวเลขของเขตที่จะชนะมากยิ่งขึ้น และในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคจะปล่อยไม้เด็ดในช่วงโค้งสุดท้ายที่จะมาเรียกความสนใจอีกมาก เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสตัดสินใจเลือก ที่สำคัญเรายังมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชน เคารพศรัทธา เข้ามาสานต่อการทำงาน และดำเนินการในสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง เพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆได้ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงนโยบายของพรรคเพิ่มเติม

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเคารพและเชื่อมั่นในกลไกของรัฐธรรมนูญ ในการคัดเลือก ส.วทั้ง 250 คนที่จะมีส่วนในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจะต้องเป็นคนที่มีดุลยพินิจบุคคลดีมีคุณภาพ ทำหน้าที่เปลี่ยนผ่านประเทศ ในส่วนที่มีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตพรรคได้เปรียบจากผู้ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ว ซึ่งนั่นเป็นเพียงการคาดเดา และต่อจากนี้ทางพรรคพลังประชารัฐมีหน้าที่รวบรวม ส.ส. ให้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและมีเสียงในสภาเกิน 250 เสียง

เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ แม้ว่าจะมีระยะเวลาในการลงพื้นที่ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งนายกฯ มีบทบาทในการบริหารประเทศตามปกติ ขณะที่ พรรคมีความเสียเปรียบพรรคอื่น เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง-ร่วมเวทีดีเบต และร่วมกิจกรรมของพรรคได้

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ฝากข้อความมาสื่อสารกับประชาชน โดยย้ำขอให้ทุกฝ่ายทำการเมืองปรองดองสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งไม่อยากเห็นการเมืองที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ขอให้ทุกฝ่ายอย่านำประเทศไปสู่ความขัดแย้งและเกลียดชัง