ทนายรณรงค์พาหญิงผู้เสียหายจากกรณีเสริมศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี ร้อง สบส. ตรวจสอบและเอาผิดเอเจนซี่และเจ้าของคลินิก ชี้โดน 6 ข้อหา 

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำหญิงสาวผู้เสียหายจากกการรับบริการศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี 2 คน พร้อมหลักฐาน มาร้องเรียนต่อ นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดี สบส. เพื่อเอาผิดบริษัทนายหน้า (เอเจนซี่) และเจ้าของคลินิกศัลยกรรมดังกล่าว

ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้จักคลินิกนี้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก มีการโฆษณาว่า แพทย์ที่ทำศัลยกรรมเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรม จึงวางมัดจำและจ่ายที่เหลือในวันก่อนผ่าตัด แต่พอถึงวัดผ่าตัดกลับเป็นแพทย์อีกคนที่มาทำให้ หลังผ่าหน้าอกม่วงช้ำลงมาจนถึงอวัยวะเพศจึงกลับไปที่คลินิกอีกครั้ง ทางคลินิกผ่าตัดเอาซิลิโคนออก ดูดเลือดออกแล้วให้กลับบ้าน หลังจากนั้นเกิดอาการวูบ และเข้ารักษาตัวใน รพ.แห่งหนึ่ง นานกว่า 1 เดือน หมดเงินรักษาตัวเป็นแสนบาท แถมไปขอเวชระเบียนเพื่อมารักษาตัวต่อก็ไม่ให้ แต่คลินิกกลับเอาไปให้เอเจนซี่เก็บไว้ จึงสงสัยว่าคลินิกนี้มีมาตรฐานหรือไม่ ขอให้ สบส.ตรวจสอบและเอาผิด

ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้แยกเป็น 2 ประเด็น คือ 1.การดำเนินการกับนายหน้าที่โฆษณาเกินจริง โดยสั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดไปตรวจสอบ หากพบมีการกระทำผิดก็ให้แจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม 2.ส่วนการตรวจสอบคลินิกที่ว่ามีการขอใบอนุญาตถูกต้อง แต่มีการดำเนินการผิดระเบียบด้วยการให้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์เข้ามามีส่วนร่วมกับการทำศัลยกรรมทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดจึงได้แจ้งความ ดังนี้ 1.ไม่มีแพทย์ประจำคลินิกตลอดเวลาที่เปิดสถานพยาบาล 2.เจ้าหน้าที่เป็นคนลงประวัติการรักษาแทนแพทย์ ถือว่าประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลไม่ดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน 4.พบการใช้ยาชาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน 5.โฆษณาโออวดเกินจริง ทำให้เกิดการเข้าใจผิดในสาระ และ 6.การเปิดเผยความลับผู้ป่วยแก่คนภายนอก ผิดข้อหาละเมิดสิทธิผู้ป่วย และผิด พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ