บุกจับผับดังย่านเกษตร-นวมินทร์ พบบาเกลื่อนพื้น นักเที่ยวฉี่ม่วงกว่าร้อยราย สั่งปิดทันที เตรียมตรวจสอบใบอนุญาต ผบช.น.ลั่น ไม่อุ้มลูกน้อง
วันที่ 28 พ.ย. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วยกองกำกับการสนับสนุน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงนาซ่าผับ ถ.ประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) เขตลาดพร้าว พบมีนักท่องเที่ยวทั้งชายและหญิงกว่า 500 คน กำลังสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ปิดเพลงและเปิดแสงไฟสว่าง ก่อนจัดแบ่งแยกนักเที่ยวชายและหญิง ออกเพื่อตรวจบัตรประชาชน และตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด
เบื้องต้น พบยาไอซ์ ยาเค และยาอี จำนวนมาก ซุกซ่อนใส่ถุงขนาดเล็กและแบงก์เงินสด 20 บาท ทิ้งกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ภายในผับ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และตรวจพบวัยรุ่นทั้งชายและหญิงมีปัสสาวะสีม่วงรวมกว่า 100 คน จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งตำรวจ สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.โคกคราม กล่าวว่า ตำรวจได้ควบคุมตัววัยรุ่นทั้งชายและหญิงที่มีปัสสาวะสีม่วงกว่า 100 ราย มาเก็บปัสสาวะเพื่อหาชนิดของสารเสพติดว่าเป็นยาเสพติดชนิดไหน เนื่องจากพบว่าสถานบันเทิงดังกล่าวมีสารเสพติดซุกซ่อนหลายชนิด ซึ่งจะส่งปัสสาวะไปตรวจที่ รพ.ตำรวจ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ จึงจะทราบผล และได้ปล่อยตัววัยรุ่นทั้งหมดชั่วคราว เนื่องจากต้องรอผลตรวจปัสสาวะออกมาก่อน หากพบว่ามีความผิดก็จะเรียกบุคคลที่กระทำผิด มารับทราบข้อกล่าวหาภายหลัง
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ปิดชั่วคราว และจะตรวจสอบว่าสถานบันเทิงดังกล่าวมีการขออนุญาตให้เปิดบริการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยหลังจากนี้จะเรียกเจ้าของสถานบริการมาสอบปากคำภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นทางเจ้าของสถานบันเทิงยังไม่ได้ติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เปิดเผยว่า จะไม่มีการอุ้มลูกน้อง หรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา สำหรับกรณีดังกล่าว หากพบว่าเป็นการปล่อยปละละเลย บช.น. มีขั้นตอนลงโทษทางวินัย กับตำรวจท้องที่นั้น ๆ อย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะเรียกตำรวจ สน.โคกคราม เข้ามาชี้แจงข้อมูลในการบูรณาการเข้าจับกุมร่วมกับหน่วยงานอื่น