ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจความปลอดภัยท่าเรือและโป๊ะรับเทศกาลลอยกระทง พร้อมกำชับห้ามเล่นพลุ ปล่อยโคมลอย
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมผู้บริหาร กทม. เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจความปลอดภัยท่าเทียบเรือและโป๊ะ เนื่องในเทศกาลลอยกระทง ตั้งแต่ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสะพานพุทธ เขตพระนคร ท่าเรือวัดอรุณฯ เขตบางกอกใหญ่ ท่าเรือวังหลัง ท่าเรือพระปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี เขตบางกอกน้อย และท่าเรือพระราม 8 เขตบางพลัด
จากการตรวจสอบท่าเรือและโป๊ะในพื้นที่ กทม. ทั้งหมด 436 ท่า โดยเป็นท่าในแม่น้ำเจ้าพระยา 227 ท่า และท่าในคลอง จำนวน 209 ท่า มีท่าเรือและโป๊ะที่อยู่ในสภาพใช้งานได้ 348 ท่า แบ่งเป็นท่าในแม่น้ำเจ้าพระยา 182 ท่า และท่าในคลอง 166 ท่า สำหรับท่าเรือและโป๊ะที่ชำรุด ต้องปรับปรุงซ่อมแซมมีจำนวน 88 ท่า กทม.ได้ดำเนินการปิดท่าเรือและโป๊ะ พร้อมติดตั้งป้ายห้ามใช้งานเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของท่าเรือและโป๊ะที่มีสภาพปกติสามารถใช้การได้อย่างปลอดภัยนั้น กทม.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยู่ประจำทุกจุด เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในวันลอยกระทง พร้อมติดตั้งป้ายแสดงจำนวนสูงสุดที่โป๊ะและท่าเรือรับน้ำหนักได้อย่างชัดเจน เพื่อแจ้งเตือนประชาชน
นอกจากนี้ ในวันลอยกระทงของทุกปี จะมีการจัดทำ ผลิต สะสม จำหน่ายดอกไม้เพลิง และปล่อยโคมลอย ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำ กทม.จึงขอแจ้งเตือนประชาชน พึงระมัดระวังอันตรายจากการเกิดอัคคีภัย และสาธารณภัยต่างๆ โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ซึ่ง กทม.ได้ออกประกาศ เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ในช่วงวันลอยกระทง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและป้องกันอันตราย รวมทั้งความเสียหายที่จะเกิดแก่ชุมชนและประชาชนโดยทั่วไป
จึงขอความร่วมมือจากผู้ผลิต สะสม จำหน่าย ผู้เล่นดอกไม้เพลิง จุดพลุ และโคมลอย ตลอดจนประชาชนในห้ามจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน หากฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งยังห้ามจำหน่ายและห้ามเล่นประทัดจีนทุกชนิด ประทัด รูปทรงกลม รูปไข่ รูปสามเหลี่ยม และไดนาไมท์ หากฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ โดยจะดำเนินการกวดขัน จับกุมผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นเหตุสาธารณภัย สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ทางโทรศัพท์สายด่วนหมายเลข 199 และ 1555 ตลอด 24 ชม.