กองปราบฯรวบสาวแสบปลอมไลน์ รองอัยการสูงสุดหลอกเรียกรับเงินวิ่งเต้นคดียาเสพติด
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) เปิดเผยว่า พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. จับกุม นางวรรณวรางค์ หรือแวว ใจทอง อายุ 46 ปี ชาว จ.ลำพูน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2286/2561 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2561 ข้อหา " ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง "
พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นางสมสุข มีวุฒิสม รอง อธิบดีอัยการสูงสุด ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่นำภาพของตนเองไปตัดต่อใส่ในโปรไฟล์แอพพิเคชั่นไลน์ ใช้ชื่อว่า "รองสมสุข" ก่อนนำไปหลอก นางศรีพรรณ บาลีพัตร์ ผู้เสียหายว่าสามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือทางคดีไม่ให้ลูกชายติดคุกในคดียาเสพติดได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้จำนวน 2.6 แสนบาท แต่สุดท้ายลูกชายก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น นางศรีพรรณ ได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลที่สำนักงานอัยการสูงสุดจนทราบว่าถูกหลอกลวง อีกทั้งเมื่อ นางสมสุข มีวุฒิสม รองอธิบดีอัยการสูงสุด ทราบว่าผู้ต้องหาได้ปลอมไลน์แอบอ้างเป็นตัวเองจึงเข้าแจ้งความกองปราบปราม กระทั่งศาลออกหมายจับ ก่อนเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ภายในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ หมู่ 4 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน
พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวอีกว่า เริ่มต้นของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 นางวรรณวรางค์ ได้ปลอมเป็นญาติตนเองชื่อ นางหมวย หรือนางชนิดา แซ่ตั้ง ก่อนโทรศัพท์ติดต่อทำขอซื้อบ้านกับ นางศรีพรรณ ผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีโรงสีข้าวแต่ติดคดีจำนำข้าวอยู่จึงถูกอายัดทรัพย์สิน ไม่สามารถนำเงินออกมาใช้ได้ จึงเอ่ยปากขอยืมเงิน และอ้างว่าจะยกมรดกให้เพราะไม่มีทายาท ทำให้ นางศรีพรรณ หลงเชื่อโอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง ต่อมา นางวรรณวรางค์ ได้หลอก นางศรีพรรณอีกว่า นางหมวย ที่ผู้เสียหายให้ยืมเงินได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งก่อนตายนางหมวยได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้ นางศรีพรรณ ต่อมา นางวรรณวรางค์ ได้ปลอมไลน์ นายชาติชาย อ่อนจันทร์ อัยการจังหวัเพชรบุรี โดยอ้างว่าเป็นอัยการรับผิดชอบคดีพินัยกรรมที่นางหมวยยกมรดกให้ โดยเรียกเงินเพื่อเร่งดำเนินการในคดีดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ อีก
จากการสอบสวน นางวรรณวรางค์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการปลอมแอพพิเคชั่นไลน์ของ รอง อธิบดี อัยการสูงสุด และ อัยการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อหลอกลวงเอาเงินจากผู้เสียหายจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ดำเนินคดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกสองสามราย ซึ่งจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป