ตำรวจรวบสามผัวเมียสุดแสบใช้กลอุบายหลอกซื้อขายที่ดิน เหยื่อหลงเชื่อสูญทอง 12 บาท

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ (บก.ถปพ.) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผบก.บก.ถปพ. มอบหมายให้ พ.ต.อ.สยาม บุญสม รรท.รอง ผบก.บก.ถปพ. ร่วมแถลงจับกุม นายสมชาย อึ้งสุวรรณ อายุ 51 ปี นางสกุลรัตน์ กระต่ายเพชร อายุ 50 ปี และ น.ส.วิเชียร อรุณจิตร อายุ 52 ปี สามสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 1 ต. หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ จ.241/2561 ในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ โดยจับกุม นายสมชาย และ นางสกุลรัตน์ ได้ที่ บ้านเลขที่ 89/76 หมู่ 8 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วน น.ส.วิเชียรจับกุมได้ริมถนนกำแพงเพชร 6 อ.เมือง จ.ปทุมธานี

พ.ต.อ.สยาม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าผู้ต้องหาทั้งสามรายซึ่งเป็นสามีภรรยากันได้ก่อเหตุหลอกซื้อขายที่ดิน มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยนางสกุลรัตน์ ทำหน้าที่เป็นนายหน้า เข้าไปตีสนิทเหยื่อส่วนใหญ่เป็นคนขายของชำในพื้นกรุงเทพฯและปริมณฑล ก่อนออกอุบายว่า มีคนสนใจจะซื้อที่ดินใกล้ ๆ กันกับที่ดินของผู้เสียหาย จากนั้นได้ขอให้ผู้เสียหายพาไปดูที่ดินแล้วหลอกว่า ถ้ามีการซื้อขายกันสำเร็จจะให้ค่านายหน้าเป็นการตอบแทน ระหว่างที่ทั้งสองไปดูที่ดินก็ได้พบกับ นายสมชาย ซึ่งสวมรอยเป็นคนซื้อที่ดิน และ น.ส.วิเชียรสวมรอยเป็นเจ้าของที่ดิน

จากนั้น สมชาย และ น.ส.วิเชียร ทำทีเจรจาซื้อขายที่ดินผืนดังกล่าวในราคา 10 ล้านบาท แต่ น.ส.วิเชียร แจ้งว่าที่ดินที่จะซื้อขายนั้นติดหนี้จำนองธนาคารอยู่ 400,000 บาท ไม่มีเงินไปไถ่ถอน จึงหันไปยืมเงิน นางสกุลรัตน์ แต่ นางสกุลรัตน์ บอกว่า มีเงินสดอยู่ 100,000 กว่าบาท พร้อมทั้งส่งเงินจำนวนดังกล่าวให้ไป ต่อมาทั้งหมดได้พูดจาหว่านล้อมผู้เสียหายให้นำเงินมาร่วมไถ่ถอนโฉนด เมื่อมีการซื้อขายที่ดินสำเร็จแล้วจะนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อนำสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท มาให้ ก่อนทั้งหมดพากันหลบหนีไป

ด้าน ผู้เสียหายรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า วันเกิดเหตุหลังจากกลับมาจากทำบุญ นางสกุลรัตน์ได้เดินตามมาก่อน ทำทีเข้ามาติดต่อซื้อขายของ และได้ขอเบอร์ติดต่อไว้ จากนั้นก็ตามที่บ้านหลายครั้ง บอกว่าอยากซื้อที่จึงให้ตนพาไปดู นอกจากนี้ยังมีอีกคนที่ร่วมด้วยคือคนขับรถของ นายสมชาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าหลงเชื่อคนง่าย

อย่างไรก็ตาม สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจริง เนื่องจากต้องการหาเงินไปใช้หนี้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ สำหรับ นางสกุลรัตน์ มีหมายจับในคดีฉ้อโกงทรัพย์ และลักทรัพย์ ถึง 20 หมาย