กทม.ลดจุดบริการฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลเหลือเพียง 1 จุดที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ส่วนในห้างสรรพสินค้าให้บริการถึง 30 เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 14/2565 ผ่านการประชุมระบบทางไกล ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รายงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบทุกคน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโควิด-19 ให้ตนเองและคนรอบข้าง ซึ่งที่ผ่านมากทม.ได้ดำเนินการเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาลจำนวน 6 จุด ให้บริการแบบวอล์คอิน (Walk in) เข้ารับบริการได้เลยไม่ต้องจองคิว เพื่อความสะดวกของประชาชนในการรับบริการวัคซีน
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป กทม.จะลดจุดบริการนอกสถานพยาบาลเหลือเพียง 1 จุด ได้แก่ ศูนย์ฉีดวัคซีนฯ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง ส่วนจุดบริการวัคซีนนอกสถานพยาบาลอีก 5 จุดที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าจะให้บริการถึงวันที่ 30 เมษายนได้แก่ จุดที่ 1 ธัญญาพาร์ค จุดที่ 2 Central พระราม 3 จุดที่ 3 Central ปิ่นเกล้า จุดที่ 4 Central อีสวิลล์ และจุดที่ 5 โรบินสัน ลาดกระบัง
สำหรับ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 และผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโควิด-19 เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่ระบาดและติดเชื้อได้ง่าย ทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับวัคซีนครบโดสตามที่กำหนดเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากที่สุด ซึ่งเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ไม่ได้มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น หากร่างกายอ่อนแอ ไม่มีภูมิต้านทานหรือมีภูมิต้านทานลดลง จากการที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและเกิดการระบาดต่อเนื่อง ปัจจุบันพบว่าผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนให้กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว กลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือยังไม่