"อัศวิน ขวัญเมือง"คนกรุงไม่หวั่นผลโพลยังตามหลัง"ชัชชาติ"เชื่อจะได้รับความนิยมแซงขึ้นมาอันดับ 1 ย้ำไม่มีนโยบายที่เลิศหรูดูโก้ดูเท่ แต่เป็นนักปฎิบัติลงมือทำจริง ภาษามวยพูดน้อยแต่ต่อยหนัก
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 6 พร้อมนายอดุลย์ เซะวิเศษ ผู้สมัคร ส.ก.เขตสะพานสูง หมายเลข 1 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสัมมากร เขตสะพานสูง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พ่อค้า แม่ค้า รวมถึงประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดี ขอถ่ายรูปและให้ดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ โดย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การพบปะพ่อค้าแม่ค้าวันนี้ประชาชนตอบรับเป็นอย่างดี เพราะรู้จักตนเองดีและรู้ว่าตนทำงานอะไรให้คนกทม.มาบ้าง
พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลสำราจความคิดเห็นของนิด้าโพลหัวข้อ “อยากได้ใคร เป็นผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 11” ที่ผลโพลอยู่อันดับที่ 3 ว่า ความจริงตนอยู่อันดับที่ 2 เพราะอันดับ 1 เป็นของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ อันดับ 2 ร้อยละ 26.58 ยังไม่ตัดสินใจ จึงเชื่อว่าตนยังได้รับความนิยมอยู่ในอันดับที่ 2 ตนเพิ่งเปิดตัว แต่ก็ไม่ได้มีความกังวลอะไรจึงไม่ใช่ปัญหายังคงเดินหน้าหาเสียง ไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนไปขอคะแนนต่อ ซึ่งก็ทำมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเป็นเรื่องที่ดี ต้องการให้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนออกมามาก เพราะยังมีความมั่นใจและเชื่อว่า ตนจะต้องขยับขึ้นมาอันดับที่ 1 ของโพลอย่างแน่นอน โดยไม่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การหาเสียงอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่เดินหน้าหาเสียงทบทวนความจำของพี่น้องประชาชนในสิ่งที่ตนเคยทำไปแล้ว จากนี้ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ย้ำว่าตนไม่มีนโยบายที่เลิศหรูมากมายตนคือนักปฏิบัต ไม่ต้องมีนโยบายใดที่ดูโก้หรือดูเท่เพียงแค่เราลงมือทำ แบบนี้ในภาษามวยเรียกว่า พูดน้อยแต่ต่อยหนัก ทำมากๆ แล้วจะดีเอง
สำหรับ กรณีที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ หลายคนให้ความสำคัญกับพ่อค้าแม่ค้าริมทางเท้า หาบเร่แผงลอย โดยสนับสนุนให้มีการค้าขายได้ทุกวันนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ทั้งหมดจะต้องอยู่บนความถูกต้อง ตามที่ปฏิบัติกันมาแล้ว เรื่องแบบนี้สัญญากันไม่ได้ ใครที่บอกว่าจะทำได้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นผู้ว่าฯ หรือไม่ ส่วนแนวนโยบายของตน คือการคืนความเป็นธรรมให้กับสังคม ทั้งผู้ค้า และคนเดินถนน หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ ค่อยกลับมาพิจารณาเรื่องนี้กันอีกครั้ง ส่วนแนวนโยบายเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องกล้องวงจรปิด และไฟส่องสว่างได้ทำไปหมดแล้ว ได้ปรับเป็นระบบดิจิทัลเกือบจะครบทั้ง 6 หมื่นตัว หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จะพิจารณาเรื่องนี้ใหม่
"การหาเสียงของผมไม่ได้หลอกลวงประชาชน ผมเป็นคนโกหกไม่เป็น สิ่งที่ทำมาแล้วก็บอกว่าทำ สิ่งที่อยากจะทำให้ถูกอกถูกใจพี่น้องประชาชน มันเป็นหน้าที่ของพ่อบ้าน มันเป็นการบ้านของคนเป็นผู้ว่าฯ อยู่แล้ว ไม่ใช่การเมือง ยืนยันว่าผมไม่ใช่พรรคการเมือง หรือ นักการเมือง และผมไม่ได้ทำการเมือง แต่ผมทำการบ้านเพื่อให้สังคมดีขึ้น"พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
จากนั้น พล.ต.อ.อัศวินได้ลงพื้นที่หาเสียงพื้นที่ต่อบริเวณตลาดหน้าสวนพฤกษชาติ คลองจั่น เขตบางกะปิ พร้อม น.ส.นฤมล มิ่งขวัญ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกะปิ เบอร์ 5 พบปะพี่น้องประชาชน ชุมชนคลองลำพังพวย เขตบางกะปิ โดยตลอดลงพื้นที่ได้รับเสียงตอบรับและได้รับกำลังใจอย่างอบอุ่นมีทั้งมอบดอกไม้ พวงมาลัย ส่งเสียงเชียร์ ให้เลือก ส.ก.เบอร์ 5ผู้ว่าฯ เบอร์ 6 โดยพล.ต.อ.อัศวินพูดถึงผลงานที่เคยทำไว้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่สมัยที่ป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยมาการขุดลอกคลองและดูแลคลองให้ใสสะอาดไม่มีปัญหาทั้งขยะและน้ำเน่าเสียเหมือนเมื่อก่อน จึงขอให้เลือกมาผู้มาเป็นผู้ว่าฯกทม. อีกครั้งหนึ่ง โดยได้รับเสียงปรบมือและเสียงตอบรับสนับสนุนอย่างล้นหลาม