หากไม่เกรงใจมารดาแห่งธรรมชาติ ไม่สนใจตัวเอง ก็ควรจะนึกถึงลูกหลานในอนาคตด้วย
หลังจากที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ประกาศปิดอ่าวมาหยาแบบไม่มีกำหนด เพื่อให้ระบบนิเวศฟื้นตัว แทนที่ชาวต่างประเทศจะสวดยับเมืองไทยว่าทำลายการท่องเที่ยว ผมเห็นแต่เสียงอนุโมทนาสาธุ ว่าเป็นการริเริ่มที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่าวมาหยา-เกาะพีพี เป็นที่รู้จักทั่วโลก คนยิ่งรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะชื่อเสียงของเกาะไม่ควรจะเสียเพราะการท่องเที่ยวอย่างละโมบ
เรื่องนี้เมืองไทยได้หน้าไปเต็มๆ แต่อาจจะเสียรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งผมคิดว่าเล็กน้อย หากจะพิจารณาว่ามาหยา-พีพี คือมรดกของคนไทยทุกคนและเป็นสมบัติของชาติ จะปล่อยให้เกิดการขูดรีดจนฉิบหายวายวอดไม่ได้ แม้แต่ในนามของการท่องเที่ยว อันเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ผมมองว่ามาหยา-พีพี และอุทยานแห่งชาติอื่นๆ คือศิลปกรรมอันวิเศษสุดที่ธรรมชาติมอบให้เรา เราคนไทยจะใช้มรดกอันล้ำค่าจากพระแม่ธรณีอย่างลูกทรพีไม่ได้ หากไม่เกรงใจมารดาแห่งธรรมชาติ ไม่สนใจตัวเอง ก็ควรจะนึกถึงลูกหลานในอนาคตด้วย
ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในเมืองไทย จะเก็บไว้ใช้กอบโกยไม่ได้นะครับ จะต้องรักษาไว้เพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชม และการชื่นชมไม่ได้หมายความว่าต้องถ่อข้ามน้ำข้ามทะเลไปเหยียบย่ำให้เห็นกับตา เพียงแค่ดูจากภาพ หรือรู้ข่าวว่ามันยังอยู่ดีก็เพียงพอแล้ว หรือถ้าอยากจะชม ผมแนะนำว่าทางการควรจะจัดโควตาวันละไม่กี่ร้อยคน ไม่ใช่เป็นพันๆ คนในคราวเดียว
มาหยา-พีพีคือเกาะแก้วอันเปราะบางนะครับ ไม่ใช่ของใช้แล้วทิ้งแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ได้