.
คดีลุงวิศวะนับว่าช็อกกองเชียร์ เมื่อคำพิพากษาออกมา ลุงถูกสั่งจำคุก 10 ปี ทั้งที่ในสายตาของคนจำนวนมาก ลุงเป็นฝ่ายที่ถูกรังแกโดยกลุ่มเด็กเกเร
อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาได้เผยให้เห็นที่มาที่ไปของคดีที่ชัดเจน ถึงอย่างไรลุงวิศวะก็ยากจะพ้นผิดไปได้ ในข้อหาเจตนาฆ่า
จากคำพิพากษา มีการสมมติด้วยว่า “ถ้าเพียงแต่” ถ้าเพียงแต่ ลุงวิศวะที่กำลังโมโห ยอมจอดรถระงับสติอารมณ์ไว้ก่อน เรื่องร้ายจะไม่เกิด
ถ้าเพียงแต่ ลุงวิศวะไม่พกปืนมาด้วย ก็จะไม่ใจร้อน จะไม่ฮึกเหิมจนท้าวิวาทพวกวัยรุ่นแบบไม่เลิกรา (เรื่องร้ายก็จะไม่เกิด)
เมื่อคิดตามตรรกะในคำพิพากษา ก็เห็นด้วยทุกประการ แต่ผมขอเติม “ถ้าเพียงแต่” ในแบบฉบับของผมด้วย
ถ้าเพียงแต่ คนขับรถตู้ไม่ใช้สันดานชุ่ย จอดรถกีดขวางทางออกรถของลุงวิศวะ ต่อให้ลุงพกปืนมา เรื่องร้ายก็ไม่เกิดเช่นกัน
งานนี้มีคนตาย คนติดคุก 10 ปี แต่ตัวจุดชนวนโดยไม่ตั้งใจอย่างคนขับรถตู้ โดนปรับแค่พันเดียว!
อุทาหรณ์ของคดีนี้ คงเป็นเรื่องของการพกปืน คนมีปืนก็มักตัดสินปัญหาด้วยปืน คนไม่มีปืน ก็มักใช้วิธีหลบหลีกเรื่องยุ่งยาก
ลุงวิศวะฟังเพลงเย็นๆ ในรถ “รักข้ามขอบฟ้า” แต่มีละเลงเลือด เพราะปืนแท้ๆ