จีนเพิ่งจะฉลอง 40 ปีการเปิดประเทศและปฏิรูปเศรษฐกิจที่ริเริ่มโดย เติ้งเสี่ยวผิง
ผลก็คือ จากที่จีนสามารถกำจัดความยากจนได้เร็วที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านภัยอดอยากที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลกเมื่อทศวรรษที่ 50-60 และอีก 36 ปีต่อมาหลังเปิดประเทศ จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกหากวัดกันที่ PPP และจะแซงหน้าสหรัฐในแง่ GDP ในอีกไม่กี่ปี ไม่ต้องพูดความมั่งคั่งและทันสมัยที่เราเห็นกันอยู่ในจีน ซึ่งพอจะเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของเติ้งเสี่ยวผิง และผู้นำจีนรุ่นต่อๆ มา
คนจีนหลายร้อยล้านคนแปรสภาพจากยาจก กลายเป็นชนชั้นกลาง จากกสิกรที่พึ่งดินฟ้ากลายเป็นนักธุรกิจย่อมๆ จากสังคมที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย กลายเป็นสังคมที่มีเงินเป็นฟ่อนๆ และจากสังคมเงินสดฟ่อนๆ กลายเป็นสังคมไร้เงินสด ถึงขนาดที่แม่ค้านั่งยองๆ ขายของริมทาง ยังมีระบบจ่ายเงินสดด้วยสมาร์ทโฟน
แน่นอนว่าจีนไม่ได้เพอร์เฟกต์ ปัญหาใหญ่ของจีนคือมลภาวะจากการเร่งพัฒนา ช่องว่างของคนรวยคนจน และช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างเขตชายฝั่งและเขตภายใน ซึ่งทางการจีนพยายามแก้ไขอย่างจริงจัง แน่ล่ะ กรุงปักกิ่งสร้างไม่เสร็จในวันเดียว กว่าที่เกิดสังคมเท่าเทียมกันโดยสมบูรณ์ หรือสิ่งแวดล้อมที่ไร้มลพิษ ยังต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี หรือหลายทศวรรษ
กรกิจ ดิษฐาน