เมื่อคืน 15 ค่ำ เดือน 11 ใครที่ไปเฝ้าดู

สิ่งที่ได้เห็นจากสื่อต่างๆ คือภาพผู้คนจำนวนมากที่ไปแออัดรอชม การค้าการขายของกินคึกคัก ที่พักเต็มกันแน่นขนัด สร้างเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนเงินได้ นักท่องเที่ยวที่เข้าไป มีตัวเลขรายงานว่าประมาณ 3 แสนคน จำนวนเงินสะพัดน่าจะอยู่ที่ราว 3 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากจำนวนคนที่มากขึ้นๆ เพื่อไปรอชมบั้งไฟพญานาคนี้ ยังไม่สอดคล้องกับการจัดการจราจร ก็คงต้องให้จังหวัดหนองคายและผู้รับผิดชอบ ได้ดูแลแก้ปัญหาเพื่อรักษาฐานนักท่องเที่ยวให้คงอยู่ในทุกๆ ปี

ขณะเดียวกัน ก็มีหลายคนตั้งคำถาม บั้งไฟพญานาค คืออะไรกันแน่ ทำไมด้วยวิวัฒนาการที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การถ่ายรูป เรือเร็วที่จะไปกวดจับดูกลางสายน้ำ ไม่หาคำตอบกันมาให้ชัด

สำหรับดิฉันเองเห็นว่า เรื่องนี้ปล่อยให้ไม่ต้องมีความกระจ่าง ก็เป็นเสน่ห์ของพื้นที่ดีค่ะ ให้ช่วงเวลาได้เป็นความผูกพันของผู้มีความเชื่อ ให้ได้เป็นสิ่งดึงดูดการท่องเที่ยวเข้าพื้นที่

อย่างหลายๆ ประเทศ เขาก็ยังมีการพูดถึง สิ่งที่หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กฟุต หรือไอ้ตีนโต ที่ก็มีภาพหรือคนบอกว่าเห็นอยู่เนืองๆ ในแถบสหรัฐอเมริกาและแคนาดา, เนสซี หรือสัตว์ประหลาดคอยาวแห่งล็อกเนสส์ ในสกอตแลนด์, เยติ หรือมนุษย์หิมะ แถบเทือกเขาหิมาลัย

ซึ่งแต่ละประเทศก็ล้วนมีตำนานเรื่องสิ่งแปลกๆ เหล่านี้ แทบทั้งนั้น เป็นที่รับรู้แพร่กระจายไปทั่วโลกบ้าง รู้กันในท้องถิ่นบ้าง

ถ้าจะทำให้เรื่องเล่าของไทยติดอันดับโลกบ้าง ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจดีนะคะในเชิงของการท่องเที่ยว