ดิฉันเชื่อว่า คนเราก็ยังชอบการอ่านอยู่ เพียงแต่ในยุคนี้มีสื่อนานาประเภทให้เราเลือกอ่าน เลือกเข้าถึงได้มากมาย
แต่สำหรับคนรักหนังสือแล้ว โลกของพวกเขา(รวมถึงดิฉัน)ด้วย ก็ยังอยู่ที่การอ่านแบบได้สัมผัสกระดาษ กลิ่นของหมึกพิมพ์ กาลเวลาดูผ่านไปเนิบๆ ไม่ต้องมาเร่งเร้า เน็ตจะไว เน็ตจะช้า หรือเน็ตจะหมด การอ่านหนังสือก็เท่ากับ เราจะได้ท่องโลกในทางลัด เป็นคู่มือให้เตรียมก่อนต้องเจอกับของจริง
มีตัวเลขสถิติหนึ่งที่ถูกเปิดเผยมาในช่วงต้นๆ ปี คือ สถิติการอ่านของประชากรไทย จัดทำขึ้นโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งเขาทำการสำรวจในทุกรอบสองปี ตัวเลขล่าสุดเป็นของปี 2558 เวลาการอ่านเฉลี่ย 66 นาที/วัน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปี 2556 ที่อ่านเพียง 37 นาที/วัน ส่วนที่ว่าอ่านผ่านสื่อชนิดไหน ที่ให้ตอบการสำรวจได้มากกว่าหนึ่งข้อ ก็พบว่า 96% บอกว่า ยังชอบจับหนังสือเป็นเล่มๆ และ 50% บอกว่า อ่านผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ดังนั้น ในงานที่เกี่ยวกับหนังสือต่างๆ จึงยังเห็น โลกของคนคอเดียวกัน คือชอบอ่านผ่านหนังสือ ได้มารวมตัวกันอย่างหนาตา ซึ่งที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 จัดกันเป็นประจำ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดงานกันไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ต.ค. และก็ยังมีไปจนถึงวันที่ 28 ต.ค.นี้ ก็เป็นโอกาสดีๆ ของคนรักการอ่าน รักหนังสือ จะได้ไปเลือกหา ทั้งหนังสือใหม่ หนังสือที่พิมพ์มาสักพักแล้ว นำมาลดราคางานกันในงาน
ของเครือบางกอก โพสต์ เอง เราก็มีสำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ และก็ได้ไปร่วมงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 ด้วย ซึ่งมีหนังสือนานาประเภท หนังสือแปล หนังสือให้ความรู้ ตลอดจนหนังสือนิยาย โปรโมชั่นที่พิเศษก็คือ บุฟเฟต์หยิบไม่อั้นที่นักอ่านทุกคนโปรดปรานในราคาถุงละ 99 บาท ส่วนหนังสือออกใหม่ก็เช่น อสังหาฯ สิคะ เพื่อนแท้ของผู้หญิง, CRYPTOASSETS, มองตะเกียบ เห็นป่าไผ่ เล่ม 3 และ กลยุทธ์การทำงานท่ามกลางผีดิบ ไปเลือกกันได้ที่บูธ C16 Plenary Hall
ในการที่จะรณรงค์ให้คนรักการอ่านที่ดีที่สุด ก็คือ ปลูกฝังให้รักการอ่านผ่านพ่อแม่และครอบครัว ให้สถานศึกษามีการรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน รูปเล่มและเนื้อหาน่าสนใจ หรือใช้ภาษาง่ายๆ ส่งเสริมให้มีห้องสมุด ห้องสมุดเคลื่อนที่ มุมอ่านหนังสือในชุมชน หรือพื้นที่สาธารณะและทำให้หนังสือสามารถหาซื้อหรือเข้าถึงได้ง่าย และก็รวมถึงยังคงมีงานหนังสือดีๆ เช่นนี้ให้เราไปเดิน