ไฟ-ฟ้า โดยทีเอ็มบีและธนชาต สร้างโอกาสทางอาชีพ กับโครงการจุดประกาย ทำขาย “ให้” เป็น ชวนสองเชฟดังสอนทำอาหารและขนม ฝ่าวิกฤตโควิด-19
“ไฟ-ฟ้า” (FAI-FAH) โครงการแห่งการให้ที่ยั่งยืน โดยทีเอ็มบีและธนชาต สร้างโอกาสทางอาชีพกับโครงการจุดประกาย ทำขาย “ให้” เป็น เปิดคลาสสอนทำอาหารและเบเกอรี่ฟรี ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ติดอาวุธเสริมความรู้ให้ผู้ร่วมกิจกรรม ทำเป็น ขายเป็น และให้เป็น เพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมต่อไป โดยมีสองเชฟชื่อดัง เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟ 2 Michelin Star Chef, Founder & CEO Thai Cuisine Academy และทูตอาหารยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ FeedUp@UN และ เชฟลัท รภัสสรณ์ จิรจุรีย์ชัย มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ มาร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์
นางสาวมาริสา จงคงคาวุฒิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบี เล่าถึงจุดประสงค์ของโครงการ จุดประกาย ทำขาย “ให้” เป็น ว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจ ไฟ-ฟ้า โดยทีเอ็มบีและธนชาต พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือกลุ่มคนว่างงานหรือขาดรายได้ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเสริมทักษะความรู้ด้านการทำอาหารและเบเกอรี่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทำเป็น ขายเป็น และให้เป็น สามารถนำไปต่อยอดสร้างโอกาสทางอาชีพ ซึ่งนอกจากการเป็น ‘ผู้รับ’ ความรู้ในโครงการนี้แล้ว ไฟ-ฟ้า ยังสนับสนุนการเป็น ‘ผู้ให้’ ได้อีกด้วย โดยเปิดกว้างให้ทุกคนที่เข้ามาร่วมโครงการได้มีโอกาสเป็นอาสาสมัครเพื่อส่งต่อความรู้และสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมต่อไป
“เชฟชุมพล แจ้งไพร” เชฟคนดัง หนึ่งในผู้ร่วม “ให้” ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ทำเมนูอาหารคาว กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่มีโอกาสมาแบ่งปันความรู้ เทคนิคการทำอาหาร และประสบการณ์ต่าง ๆ มุ่งหวังว่าผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้จะนำความรู้ที่ได้ไปสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งองค์ความรู้ต่าง ๆ เหล่านี้สามารถนำไปประกอบอาชีพ หรือนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยสิ่งสำคัญคือ ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนเกิดความชำนาญ เพราะการเป็นเชฟ หรือการทำอาหารก็เหมือนนักกีฬา หรือนักร้องที่ต้องขยันซ้อม ดังนั้น นอกจากมีสูตรอาหาร เรียนรู้วิธีการและเทคนิคไปแล้ว ยังจะต้องฝึกทำบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มทักษะให้กับตัวเอง”
“ผมเคยร่วมกิจกรรมกับไฟ-ฟ้ามาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน และการได้กลับมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้มีความสุขมาก ซึ่งสิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้กับผู้เข้าร่วมและทุกคนในสังคมคือ ‘การส่งต่อการให้‘ ขอขอบคุณทีเอ็มบีและธนชาตที่สานต่อโครงการดี ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ผมอยากเห็นกิจกรรมเพื่อสังคมแบบนี้อยู่กับสังคมไทยตลอดไป เพราะสามารถจับต้องได้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ผมได้ข่าวว่าศิษย์รุ่นแรกที่ผมเข้ามาสอน จากที่เป็นเด็กอยู่ใกล้ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า วันนี้มีงานทำเป็นหลักฐาน มีความมั่นคง โดยเฉพาะเด็กคลาสอาหารที่ไม่เคยเรียนรู้จากที่ไหนมาก่อน มาเริ่มเรียนรู้จากที่นี่ สะท้อนให้เห็นถึงการทำกิจกรรมเพื่อสังคมแบบยั่งยืน ซึ่งผมยินดีให้การสนับสนุนในทุกเรื่อง” เชฟชุมพลกล่าว
ด้าน เชฟลัท-รภัสสรณ์ จิรจุรีย์ชัย กล่าวว่า “การมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะได้นำความรู้และประสบการณ์มาแบ่งปันในฐานะผู้ให้แล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าได้รับความรู้กลับไปด้วยเช่นกัน เพราะทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมจะแลกเปลี่ยนความรู้กัน และรู้สึกดีใจมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการทำ เบเกอรี่ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ต่อไป ขณะเดียวกันการแลกเปลี่ยนพูดคุยก็เป็นการจุดประกายให้เราลุกขึ้นสู้ด้วยเหมือนกัน ขอบคุณทีเอ็มบีและธนชาตที่สานต่อโครงการดีมีประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งทำให้ทุกคนได้ส่งต่อการให้ที่ยั่งยืนจริง ๆ”
ด้าน คุณเจมส์ “ประสงค์ คงสงค์” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมห้องเรียนเบเกอรี่ ที่เดินทางไกลมาจาก จ.กาญจนบุรี เจ้าของร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เล่าว่า สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเพราะประกอบอาชีพเปิดร้านขายอาหารอยู่แล้ว จึงอยากมาเรียนรู้เทคนิคการทำอาหารและขนมเพิ่มเติม ซึ่งการเรียนการสอนได้ลงมือปฏิบัติจริงทำให้ได้เมนูและเทคนิคใหม่ ๆ นำไปใช้กับที่ร้านได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องกลับไปฝึกฝนและเรียนรู้เพิ่มเติมให้เกิดความชำนาญ
“ผมเปิดร้านอาหารมาเกือบ 10 ปี มองว่าการทำตลาดแบบเดิม ๆ ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้เหมือนเดิม เพราะทุกวันนี้โลกก้าวสู่ยุคดิจิทัล การตลาดออนไลน์จึงสำคัญมากขึ้น และยิ่งในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นนี้ ลูกค้าก็ไม่อยากออกนอกบ้าน ทำให้ร้านอาหารได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนี้ด้วย จึงตัดสินใจสมัครที่จะมาเรียน โดยได้ความรู้ด้านทำการตลาดที่ปัจจุบันมีทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ถือเป็นการเสริมความรู้และนำไปต่อยอดประยุกต์ใช้สู่การประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้และประทับใจมากคือ การได้มารู้จักกับโครงการเพื่อสังคมดี ๆ อย่าง ไฟ-ฟ้า ทำให้เราเข้าใจคำว่า “ให้” มากขึ้น โดยมีการเรียนรู้พร้อมทั้งสอดแทรกกิจกรรมเพื่อให้เราใส่ใจเรื่องการส่งต่อ ยิ่งได้รู้จุดประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อส่งเสริมให้เด็กในชุมชนที่ไม่มีศักยภาพด้านการเงินเข้ามาเรียน ตรงนี้เป็นเหมือนจุดหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เด็กเข้ามาเรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ หรือ ค้นหาตัวเอง เพื่อเป็นประโยชน์ในอนาคตก็ยิ่งรู้สึกประทับใจ ทำให้ผมคิดว่าหากมีกิจกรรมที่มีประโยชน์สามารถช่วยเหลือได้ เราก็จะแบ่งปันเวลาไปร่วม” คุณเจมส์ กล่าว
ปิดท้ายกันที่คุณสุภา เลิศวัฒนกิตติ อดีตพนักงานประจำที่เกษียณแล้ว ปัจจุบันเป็นแม่บ้าน “ตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 เริ่มมีสัญญาณส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จึงตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมกับทางไฟ-ฟ้า เพราะมองว่าเป็นหนึ่งช่องทางในการเรียนรู้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการทำอาหารและโอกาสที่จะต่อยอดยึดเป็นอาชีพสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง หรืออย่างน้อยก็ช่วยทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นในการทำอาหารให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ รับประทาน นอกจากนี้ การได้เข้าร่วมกิจกรรมยังทำให้เรามีเพื่อนกลุ่มใหม่ และที่สำคัญสอนให้เรียนรู้ถึงการ “ให้” เมื่อเราได้รับแล้วต้องรู้จักแบ่งปันส่งต่อให้กับคนอื่นต่อไป ซึ่งความรู้ที่ได้รับมาครั้งนี้หากมีโอกาสแบ่งปันความรู้ก็ตั้งใจที่จะส่งต่อไปให้คนอื่นด้วย” คุณสุภา กล่าว
ไฟ-ฟ้า โดยทีเอ็มบีและธนชาต มุ่งมั่นและตั้งใจเดินหน้าจุดประกายเยาวชนและชุมชน ภายใต้ปรัชญา Make REAL Change เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป ติดตามกิจกรรมดี ๆ ได้ที่ www.tmbfoundation.or.th