เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมคนที่อายุเท่ากัน แต่หน้าตาและผิวพรรณกลับดูต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

หลายคนคงเคยได้ยินวลีที่ว่า “หน้าดูอ่อนกว่าวัย” หรือบางคนอาจเคยถูกสรรเสริญด้วยคำเหน็บแนม“หน้าแก่ก่อนวัยอันควร” แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมคนที่อายุเท่ากัน แต่หน้าตาและผิวพรรณกลับดูต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

แท้จริงแล้ว คนเรามี 2 อายุ นั่นคือ “อายุตามปฏิทิน” (Calendar Age) หรืออายุที่นับตามวันเดือนปีเกิดจริง และ “อายุร่างกาย” (Body Age) หรือตัวเลขที่บอกอายุของร่างกาย ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสุขภาพของเรานั่นเอง

สำหรับคนที่ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นอย่างดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มักจะมีอายุร่างกายที่น้อยกว่าหรือเทียบเท่ากับอายุตามปฏิทิน ผิวพรรณจะสดใส ร่างกายแข็งแรง หน้าตาดูอ่อนเยาว์ แต่ในทางกลับกัน สำหรับคนที่ไม่ดูแลตัวเอง มีความเครียดสะสม รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และประกอบกับร่างกายต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ ฝุ่น ควัน ยิ่งเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเซลล์ 

ดังนั้น หากคุณอยากรู้ว่าอายุร่างกายของเราใช้งานหนักแค่ไหน ในปัจจุบันวงการแพทย์มีการแนะนำให้ตรวจหาอายุร่างกาย ซึ่งการตรวจนั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการประเมินอายุร่างกายโดยใช้แบบสอบถาม เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ อาทิ ภาวะสุขภาพ พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การพักผ่อน ภาวะทางอารมณ์ ความเครียด ฯลฯ ก่อนนำมาประเมินอายุร่างกายที่แท้จริง

ส่วนอีกวิธีซึ่งกำลังได้รับความนิยมในสาวกสุขภาพ ก็คือการใช้เครื่องมือช่วยประเมินสมรรถภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเผาผลาญพลังงานขณะอยู่นิ่ง โดยใช้เครื่องวัดองค์ประกอบร่างกาย การวัดความยืดหยุ่นของผิวหนัง รวมถึง การตรวจวัดความยาวเทโลเมียร์ (Telomere Length) ซึ่งถือเป็นการตรวจเซลล์หาอายุร่างกายที่ได้รับความนิยม โดยเทโลเมียร์คือ ส่วนที่อยู่บริเวณปลายสุดของโครโมโซม ซึ่งในการแบ่งเซลล์แต่ละครั้ง ร่างกายจะมีการจำลองโครโมโซมขึ้น โดยจะทำให้เทโลเมียร์หดสั้นลง ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงสามารถวิเคราะห์การเสื่อมของเซลล์ หรืออายุขัยได้จากขนาดของเทโลเมียร์ที่เปรียบเสมือนดัชนีชี้วัดความแก่ของเซลล์

อย่างไรก็ดี วิธีเราควรดูแลสุขภาพให้ดีจากภายในสู่ภายนอก เพื่อให้เซลล์อ่อนเยาว์ ด้วยการรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ฟีนอล แคโรทีน แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ หรือช่วยป้องกันไม่ให้เทโลเมียร์หดสั้น โดยสารต้านอนุมูลอิสระดังกล่าวจะอยู่ในสาหร่ายสไปรูรีนา และสาหร่ายคลอเรลลา ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “สารอาหารจากอนาคต” มีสรรพคุณในการช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ได้เป็นอย่างดี มีกรดอะมิโน แอซิดสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส ชะลอความชรา โดยสาหร่ายทั้ง 2 ชนิดคือ ส่วนหนึ่งของสารสกัดจากธรรมชาติ 24 ชนิดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ CELEFOOZ

ดังนั้น หากใครที่รู้ตัวว่าร่างกายใช้งานหนัก และส่งสัญญาณบางอย่างแล้วล่ะก็ อย่ารอช้าลงทุนกับตัวเองในการเลือกรับประทานสิ่งดี ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ภายในร่างกายมีเกาะป้องกัน และหากมีเวลาลองไปพบแพทย์เพื่อตรวจเซลล์หาอายุร่างกาย ซึ่งยังไม่สายที่คุณจะหันมาดูแลตัวเอง