"ท่วงหงษ์"แบรนด์เครื่องประดับเงินแท้สัญชาติไทยสู้กฤตโควิด-19 พลิกปั้นแบรนด์พร้อมลุยขายผ่านอีคอมเมิร์ซ ส่งต่อผลงานระดับมาสเตอร์พีซสำหรับลูกค้าแบบเฉพาะคน
นายณัฏฐรัชพล ปุลินจิตรคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เอเชี่ยน จิวเวลรี่ จำกัด ผู้จัดหน่ายและทำการตลาดเครื่องประดับเงินแท้แบรนด์ TuangHong เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาเครื่องประดับเงินแท้ 92.5% หรือที่เรียกว่า สเตอร์ลิง ซิลเวอร์ (Sterling Silver) ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก มีแบรนด์เกิดใหม่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าขณะนี้ การส่งออกสินค้าเครื่องประดับเงินของประเทศไทยจะมีการปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 แต่บางตลาดในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ได้ผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ ซึ่งน่าจะส่งผลให้การส่งออกกลับมาดีขึ้นในครึ่งหลังของปี ส่วนในประเทศยังคงมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการล็อคดาวน์ทำให้ผู้ซื้อหันมาช้อปปิ้งผ่านอีคอมเมิร์ซ ทำให้ตลาดเครื่องประดับเงินแท้ในประเทศยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่ และคาดว่าการผ่อนปรนในระยะต่อๆ ไปในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ก็จะทำให้ตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวสินค้าแบรนด์แรกในชื่อ TuangHong (ท่วงหงษ์) อย่างเป็นทางการเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเครื่องประดับที่ทำจากเงินแท้ฝังแร่มาร์คาไซท์ มีไลน์สินค้าหลากหลายตั้งแต่แหวน ต่างหู กำไล สร้อยข้อมือ นาฬิกา จี้ สร้อยคอ เข็มกลัด ไปจนถึงชุดเซ็ตเครื่องประดับเงินแท้ บริษัทฯ ต้องการสร้างแบรนด์ TuangHong ให้เป็นเหมือนของขวัญชิ้นพิเศษ ที่ลูกค้าสามารถใส่ความเป็นตัวเองได้ตามความต้องการ เป็นตัวแทนของการส่งต่อความรัก มิตรภาพ ความผูกพัน ความห่วงใย ถึงคนพิเศษ เป็นเครื่องประดับที่มีคุณค่าทางจิตใจ สามารถส่งต่อจากครอบครัวสู่ครอบครัวและจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยคุณค่างานหัตถศิลป์ที่เปี่ยมด้วยความหมายและเรื่องราวของแต่ละบุคคล
นายณัฏฐรัชพล กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เลือกทำการตลาดและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 100% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากโควิด-19 ได้มาก สำหรับราคาสินค้า TuangHong จะอยู่ในระดับที่ทุกคนจับต้องได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นหญิงสาวตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยจนถึงวัยทำงาน มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย นิยมใช้โซเชียลมีเดีย รักความประณีตและชื่นชอบเครื่องประดับเงินแท้ 92.5% ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องการแสดงออกถึงรสนิยมผ่านเครื่องประดับที่เลือกสวมใส่ในทุกวัน
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ TuangHong มีเอกลักษณ์ที่ดีไซน์ เน้นความสง่างามและละเอียดอ่อน เช่นเดียวกับท่วงท่าของหงส์ อีกทั้งอักษรย่อ TH ของแบรนด์ยังคล้องกับอักษรย่อของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางเครื่องประดับเงินและอัญมณีอันดับต้นๆ ของโลก บอกที่มาของแบรนด์ว่าเป็นเครื่องประดับเงินอัญมณีแท้คุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับระดับสากล จากคุณภาพงานฝีมือที่ทรงคุณค่า ตามสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า “Every Piece Your Masterpiece เอกลักษณ์ในแบบคุณ” สินค้าทุกชิ้นจึงจะเป็นงานสั่งทำพิเศษ (Tailor Made) เปรียบเสมือนงานสั่งตัด ที่เน้นความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยช่างฝีมือคนไทยที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ตั้งแต่ดีไซน์ อัญมณี และขนาดของตัวเรือนถูกทำขึ้นอย่างเฉพาะ เจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละคน เพื่อสร้างเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์เสมือนผลงานชิ้นเอกสะท้อนคุณค่าอันเป็นตัวของตัวเอง เปล่งประกายเสน่ห์และความสง่างาม พร้อมสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจให้กับผู้สวมใส่ที่ได้ครอบครองสินค้าของท่วงหงษ์ตลอดอายุการใช้งาน
สำหรับยอดขายหลังเปิดตัว ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ มียอดลูกค้าสั่งซื้อครั้งแรกแล้วกลับมาซื้อซ้ำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกือบ 60% เป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะชื่นชอบที่ดีไซน์ คุณภาพ และความคุ้มค่า อีกทั้งประเภทสินค้าที่หลากหลายยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินกับการเลือกชิ้นงานที่ถูกใจได้ไม่เบื่อ ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดจะเป็นแหวนและต่างหู ในช่วงแรกนี้ แบรนด์ TuangHong ยังโฟกัสที่ตลาดในประเทศอย่างเดียว โดยจะใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเข้าถึงลูกค้าคนไทยทั่วประเทศก่อนจะเริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดส่งออก ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดช่องทางจำหน่ายสินค้า ทั้งทางเว็บไซต์ www.tuanghong.com ทางเฟสบุ๊ค facebook.com/tuanghong ทางไลน์ @tuanghong และไอจี @tuanghongth โดยในไตรมาสที่สาม จะเริ่มขยายสู่แพลทฟอร์มอื่นเพิ่มเติม เช่น Lazada และ Shopee รวมถึงแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียที่กำลังเป็นที่นิยม อย่าง Tiktok
“เครื่องประดับเงินแท้ ป็นประเภทเครื่องประดับที่สามารถถ่ายทอดความหรูหรา เสน่ห์และรสนิยมเฉพาะตัว แต่ปัจจุบันผู้บริโภคมีค่านิยมในการซื้อเครื่องประดับเฉพาะช่วงเวลาโอกาสพิเศษ เนื่องจากราคาที่เข้าถึงยาก ทางแบรนด์ท่วงหงษ์จึงมีสินค้าราคาที่ไม่สูงจับต้องได้ เพื่อให้เข้าถึงง่าย ใช้ได้ทุกคน สามารถซื้อได้บ่อย เปลี่ยนดีไซน์ ได้บ่อยตามต้องการในแบบ “Daily use to wear” และด้วยงานประเภท Tailor Made ที่ออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับลูกค้าแต่ละรายจะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อและกลับมาซื้อซ้ำง่ายขึ้น”นายณัฏฐรัชพลกล่าว