อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา จากเจ้าของธุรกิจหน้าเก่าเก๋าประสบการณ์และเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ป้ายแดงแกะกล่อง

เกี่ยวกับการทำ SEO ว่าจำเป็นต้องลงทุนทำหรือไม่ เพราะอย่างที่หลายคนรู้กันว่า SEO  หรือ Search Engine Optimization ส่งผลในเรื่องของการค้นหาบนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่บน Google อย่างโดยตรง แต่ต้องใช้ระยะเวลาและส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ในเรื่องของคุณภาพขึ้นไปติดหน้าแรกๆ ของการค้นหา กว่าจะเห็นผลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเสมอไป

หากเปรียบเทียบกับช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่าง Facebook, Twitter, Instagram และ Youtube เพียงแค่ลงทุนชั่วคราวคืน ก็สามารถเห็นผลลัพธ์และเพิ่มยอดขายได้อย่างถล่มทลาย เลยทำให้กลับมาวนคำถามเดิมที่ว่า จำเป็นต้องทำ SEO อยู่หรือไม่ วันนี้เราจะมาคลายความสงสัยและให้เห็นประโยชน์ของการทำเจ้า SEO ให้มากขึ้น หากพร้อมแล้วเตรียมเก็บข้อมูลไปด้วยกันเลย

ติดยาว อยู่นาน เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างโดยตรง

การลงทุนโฆษณาบนช่องทาง Facebook, Twitter, Instagram และ Youtube เป็นวิธีที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่ Budget หรือ งบประมาณที่ใช้ไป  รวมไปถึงเรื่องของระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งบางครั้งสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารอาจไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหมดซะทีเดียว (แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกธุรกิจเสมอไป) แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นช่องทางสำคัญที่ขาดไม่ได้ในยุคการตลาดออนไลน์ปัจจุบัน เพราะหลายคนประสบความสำเร็จ พร้อมกับยอดขายจากช่องทางดังกล่าวมาแล้วอย่างมากมาย (แต่ก็ต้องแลกมากับการลองผิด ลองถูก หมดค่าโฆษณาไปไม่น้อย)

หากทำควบคู่กับ SEO จะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวได้ค่อนข้างสูง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อสินค้า ใช้บริการ และสร้างความน่าเชื่อให้กับธุรกิจได้อีกเช่นกัน หากเว็บไซต์ของคุณมีมาตรฐาน เนื้อหาคอนเทนต์มีคุณภาพ และมีการใช้เทคนิคอื่นๆ เข้ามาช่วยในการทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน แต่รับรองได้เลยว่าช่วยให้คำที่ค้นหาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเจอเว็บไซต์ของคุณอย่างแน่นอน แถมยังติดยาว อยู่นาน เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างโดยตรงบนช่องทาง Google ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทำ SEO อย่างไรให้เว็บไซต์ติดอันดับ

อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า การทำ SEO ต้องใช้ระยะเวลาและปัจจัยสำคัญหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาคอนเทนต์บนเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย, โครงสร้างและประสิทธิภาพเว็บไซต์มีคุณภาพตรงตามเกณฑ์ของ Google หรือไม่, ความน่าเชื่อหรืออายุของเว็บไซต์ (เปิดมานานยิ่งมีความน่าเชื่อมากกว่าเว็บไซต์หน้าใหม่) และการใช้เทคนิคเสริมเข้ามาช่วย อาทิ การแชร์ลิงก์เว็บไซต์ลงไปในช่องทางต่างๆ ให้คนเข้าถึง, สร้างคอนเทนต์ให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องลงไปตามบล็อก เป็นต้น

ด้วย Google เป็นช่องทางที่มีการค้นหามากที่สุดในแต่ละวัน หากเว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆ ได้แล้วละก็ ยิ่งทำให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสเติบโตมากขึ้นเท่านั้น หากถามหาคำตอบของคำถามว่าการทำ SEO จำเป็นไหมในยุคนี้ ต้องบอกเลยว่าสำคัญเป็นอย่างมาก ยิ่งทำควบคู่กับช่องทางอื่นๆ ยิ่งเพิ่มการเติบโตของธุรกิจได้ดีเลยทีเดียว