LIFESTYLE

โดย กองบรรณาธิการ M2F

18 พฤศจิกายน 2562 : 19:30 น.

Travel the World in a Day ในงานวัฒนธรรมนานาชาติ 2019 World Culture Festival

มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ (International Youth Fellowship -IYF) ร่วมกับ สถาบันการศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (IIS-RU)  จัดงาน ‘วัฒนธรรมนานาชาติ 2019 World Culture Festival’  ให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าชมฟรี ภายในงานมีการแสดงจากนานาประเทศ ละครเวทีชีวิตจริง และนิทรรศการวัฒนธรรมที่ได้ย่อโลกทั้งใบมาให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ภายใต้ธีม “Travel the World in a Day” รวมผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 1500 คน ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง 

งานวัฒนธรรมนานาชาติครั้งนี้ถูกจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วม เมื่อปีที่แล้ว ตัวหลักสำคัญในการขับเคลื่อนงานประกอบด้วยเหล่าเยาวชนไทยที่เคยไปใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นในฐานะอาสาสมัครจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาไม่ใช่นักแสดง หรือผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ แต่ด้วยจิตใจที่อยากจะส่งต่อความสุข และประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างใช้ชีวิตในต่างแดน จึงใช้เวลาหลังการทำงาน และเรียนหนังสือหมั่นฝึกซ้อมทำการแสดง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้ร่วมงานก็ทำให้พวกเขามีความสุข

โดย ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย ได้ขึ้นมาทักทาย ผู้ชมและได้กล่าวแสดงถึงเจตนารมณ์ของการจัดตั้งโครงการ IYF Good News Corps ขึ้นมา กล่าวว่า “ตลอด 13 ปีที่ส่งเยาวชนกว่า 930 คนไปเป็นอาสาสมัครที่ต่างประเทศ ผมได้คลุกคลีกับเยาวชนมากมายและ ได้ค้นพบว่าเยาวชนสมัยนี้ใช้จิตใจไม่เป็น ทำให้สิ้นหวังกันง่ายๆ จนเกิดเป็นโรคทางใจ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอไปด้วย IYF ได้ทำงานเพื่อสอนการใช้จิตใจให้กับเหล่าเยาวชน โดยมีโครงการอาสาสมัครต่างประเทศให้เยาวชนได้ไปฝึกจิตใจ ทำให้หลังจากกลับมาจากต่างประเทศพวกเขาเข้มแข็งและเป็นคนที่มีความหวัง

World Culture Festival คืองานของนักศึกษาที่เคยไปใช้ชีวิตในต่างประเทศที่กลับมาพร้อมกับความหวัง และความสุข เราได้จัดงานนี้เพื่อที่จะแบ่งปันความสุข รอยยิ้มและความยินดีให้กับทุกท่าน อยากให้ทุกท่านได้ส่งแรงใจ และกำลังใจให้กับเยาวชนเหล่านี้ต่อไปในอนาคตครับ”

ต่อด้วย ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ขึ้นกล่าวแสดงความชื่นชนและขอบคุณ “เยาวชนของ iyf ทั้ง 13 รุ่นได้ออกเดินทางไปเป็นอาสาสมัครต่างประเทศทั้งหมด 936 คน แม้จะยังดูน้อยเมื่อเทียบกับ เยาวชนทั่วประเทศแต่พวกเขาเหล่านี้ก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่จะเติบโตขึ้นและขยายออกไปเป็นวงกว้างอาสาสมัครทุกคน มีความจริงใจและผ่านความยากลำบากในต่างแดนเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจของพวกเขาเข้มแข็งขึ้น ถือว่า IYF ประสบความสำเร็จในการสร้างเยาวชนที่ดี ที่มีคุณค่า กิจกรรมที่ iyf ทำ เป็นประโยชน์อย่างมาก ต่อประเทศไทยและสังคมโลก ต้องขอแสดงความยินดีและขอบคุณด้วยความจริงใจครับ”

อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก นางยุพา  ทวีวัฒนะกิจบวร รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และนางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีและชื่นชม IYF และสถาบันการศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่มีวิสัยทัศน์ เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ผลักดันการศึกษาไทยสู่ระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยให้เยาวชนได้มีจิตใจกว้างขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ เยาวชนให้มีคุณภาพ

ภายในงานมีการแสดงเต้นวัฒนธรรมจาหลากหลายประเทศที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของชนชาตินั้นๆ อาทิ “รำพัดพูเชชุม” (Fan Dance) จากประเทศเกาหลีใต้, “คินชานา” (Kinchana) จากประเทศอินเดีย, “ทามาช่า” (Tamasha) จากทวีปแอฟริกา, “ปาเตปาเต้” (PatePate) จากทวีปโอเชียเนีย และการแสดงพิเศษ  “รำฝรั่งคู่” โดยนักศึกษาจากสำนักศิลปะ วัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทุกการแสดงล้วนสวยงามและสนุกสนานจนทำให้คนดูไม่สามารถละสายตาได้

กิจกรรมที่สร้างความประทับใจและเรียกน้ำตาไม่แพ้กันคือ การแสดง True Story ละครจำลองชีวิตจริง ของ ฝุ่น อาสาสมัครประเทศแทนซาเนีย จากเด็กติดเกมจนถึงขั้นทำร้ายครอบครัว แต่เมื่อต้องไปทำงานอาสาที่แอฟริกา ทำให้เขากลับได้กลับมามองเห็นความสำคัญของคนรอบข้างอีกครั้ง

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีโซนบูธวัฒนธรรมจากประเทศต่างๆ กว่า 13 บูธ ซึ่งนำเสนอเอกลักษณ์ และจุดเด่นของแต่ละประเทศมาให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกลิ่นอายเหมือนได้ไปเยือนประเทศนั้นจริงๆ อาทิ การทำโซต๊อกสลับกับไส้กรอกสูตรเกาหลีแท้ๆ เพ้นท์หน้าสไตล์คนแอฟริกา การจำลองเตนท์ชาวอินเดียแดง จากชนเผ่าดั้งเดิมของอเมริกา  อีกทั้งยังมีกิจกรรมและเกมให้ร่วมสนุกเพื่อชิงของรางวัลกันด้วย

และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ของ IYF คือการบรรยาย Mind Education ที่จัดทั้งรอบเช้าให้กับผู้นำทางการศึกษาอย่างคณะบดี รองคณะบดี ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ตัวแทนนักเรียน และรอบบ่ายที่มีแขกVIPเข้าร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทูต และตัวแทนของสถานทูตต่างๆ ประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาเข้าร่วมงานด้วย เช่น H.E. Mr. Ahmed  Nuhu Bamalli ตำแหน่ง Ambassador จากประเทศไนจีเรีย นายอัมรินทร์ คอมันตร์ ตำแหน่ง Honorary Consul จากกงสุลสาธารณรัฐเบนิน Mr. Bohdan Movchan ตำแหน่ง Counsellor (Diplomat) จากประเทศยูเครน  Ms. Tara Sharma ตำแหน่ง Third Secretary (Diplomat) จากประเทศเนปาล Mr.Vansay NORASENG ตำแหน่ง Counsellor (Education and Culture) จากประเทศลาว เป็นต้น

โดยครั้งนี้ IYF ได้เรียนเชิญคุณ โอ ยอง ยุน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตใจ ขึ้นกล่าวบรรยายในหัวข้อ ‘มูลค่าและการเชื่อมต่อ’ โดยยกตัวอย่างทหารญี่ปุ่น ที่ชื่อ โชอิชิ โยโคอิ ที่คิดว่าสงครามญี่ปุ่น กับอเมริกายังไม่จบ ทำให้เขาหนี ไปหลบซ่อนอยู่ในป่าลึกถึง 28 ปี ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างทรมาน เมื่อมีคนเข้าไปพบ และเล่าความจริงให้ฟังว่า สงครามจบนานแล้วทำให้เขารู้สึกผิดหวังเพราะพลาดโอกาสที่จะทำสิ่งที่อยากทำมากมาย คนเราเช่นกัน หากปิดใจ หรือเชื่อแต่เพียงความคิดของตัวเอง ไม่ถาม ไม่หาใคร ก็จะทำให้ชีวิตของคนๆนั้นโชคร้าย และได้แต่ต้องจมอยู่ใน ความเศร้า อยากให้ทุกคนเปิดใจที่จะฟังเสียงของคนรอบข้าง และเชื่อมต่อกับจิตใจของผู้อื่นบ้าง

เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมทั้งหมดบนเวทีเหล่าอาสาสมัครได้ขึ้นมาแสดงความขอบคุณด้วยการร้องเพลง “ดวงดาว” ซึ่งแต่งโดยผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ด้วยเสียงและจิตใจที่เป็นหนึ่งเดียวกัน สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ได้เดินทาง กลับบ้านกันอย่างมีความสุขกับของขวัญชิ้นใหญ่ที่ได้รับส่งท้ายปี 2019 และ IYF มีความเชื่อว่างาน World Culture Festival จะเป็นงานวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดในประเทศไทยต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ