อิงกระแสเลือกตั้งปี 2562 กับเรื่องของการเมืองที่คนเรียนรู้ได้จากชิมแปนซี
รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่แค่คนเราเท่านั้นที่สนใจเกี่ยวกับการเมือง แต่บรรดาสรรพสัตว์ โดยเฉพาะเจ้า "ชิมแปนซี" ก็เกี่ยวพันกับเรื่องการช่วงชิงอำนาจในหมู่สัตว์ที่เป็นญาติใกล้ชิด
จากการศึกษาของ ศ.เจมส์ ทิลลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ เรื่องการช่วงชิงอำนาจในหมู่สัตว์ที่เป็นญาติใกล้ชิดกับคนเราอย่างลิงชิมแปนซี พบเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการเมืองที่มนุษย์อย่างเราสามารถเรียนรู้ได้จากพวกมันแบ่งออกเป็น 5 พฤติกรรมใหญ่ๆ ดังนี้
1.เก็บเพื่อนไว้ใกล้ตัว แต่เก็บศัตรูไว้ให้ใกล้ยิ่งกว่า
การเมืองของลิงชิมแปนซี คือเครือข่ายของพันธมิตรที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และการที่จะขึ้นสู่จุดสูงที่สุด คุณต้องพร้อมที่จะหันหลังให้เพื่อนแล้วอ้าแขนรับศัตรูได้เสมอ โดยการสร้างพันธมิตรที่ว่านี้ของชิมแปนซีส่วนใหญ่มีขึ้นเพื่อความสะดวกสบาย ไม่ใช่เพื่อมิตรภาพ
2.การสร้างพันธมิตร จงเลือกคนที่อ่อนแอกว่า ไม่ใช่คนแข็งแกร่งกว่า
เพราะพันธมิตรที่อ่อนแอเท่า ๆ กัน หมายถึงการแบ่งผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม ชิมแปนซีมักสร้าง "แนวร่วมเพื่อชัยชนะโดยมีสมาชิกน้อยที่สุด" (minimal winning coalitions) นั่นหมายความว่าลิงที่อ่อนแอ 2 ตัว จะรวมกลุ่มกันสู้กับลิงที่แข็งแรงกว่า 1 ตัว มากกว่าจะเป็นการจับกลุ่มกันระหว่างลิงอ่อนแอกับลิงที่แข็งแรง ซึ่ง ศ.เจมส์ ทิลลีย์ ชี้ว่า พฤติกรรมเช่นนี้ของลิงมีความสมเหตุสมผล เพราะหากลองคิดว่า ถ้าเราจับกลุ่มกับคนที่อ่อนแอ เราก็จะได้เปรียบกว่าเวลาที่ต้องแบ่งผลประโยชน์กันเมื่อเทียบกับการที่เราจับคู่กับคนที่แข็งแรงกว่า
3.การเป็นที่ยำเกรงเป็นเรื่องดี แต่จะยิ่งดีกว่าถ้าได้เป็นที่ชื่นชอบ
ชิมแปนซีใช้วิธีแจกจ่ายอาหารในการซื้อแรงสนับสนุนจากสมาชิกในฝูง จ่าฝูงลิงชิมแปนซีอาจเป็นตัวที่มีนิสัยน่ากลัวดุร้ายและควบคุมลิงในฝูงด้วยพละกำลัง แต่จ่าฝูงเหล่านี้มักอยู่ได้ไม่นานการจะเป็นจ่าฝูงลิงชิมแปนซีที่ประสบความสำเร็จจะต้องหาแรงสนับสนุนให้ตนเองและแนวร่วมจากลิงส่วนใหญ่ในฝูง และการเป็นผู้นำที่อ่อนโยนแต่หนักแน่นในคนเดียวกันถือเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้
4.การเป็นที่ชื่นชอบเป็นเรื่องดี แต่จะดียิ่งกว่าหากสามารถแจกจ่ายผลประโยชน์ให้สมาชิกในฝูง
จ่าฝูงที่กุมอำนาจได้ยาวนานที่สุด คือตัวที่สามารถครอบครองทรัพยากรและใช้ทรัพยากรเหล่านั้นซื้อใจ เพื่อให้ได้การสนับสนุนจากสมาชิกในฝูงจากการแจกจ่ายเนื้อที่ล่ามาได้ให้แก่สมาชิกในฝูง ซึ่งจ่าฝูงตัวหนึ่งอาจอยู่ในอำนาจได้นานถึง 12 ปี
5.ภัยจากภายนอกอาจช่วยค้ำจุนการสนับสนุนภายในกลุ่ม
ไม่มีอะไรจะสร้างความสามัคคีในกลุ่มได้เท่ากับการเผชิญภัยคุกคามจากนอกฝูง เพราะเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจากภายนอก ฝูงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะเกาะกลุ่มกันโดยลืมความขัดแย้งที่เคยมีในอดีต ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เราอยู่บนโลกมายาวนานจนถึงปัจจุบัน