การกลับมาอีกครั้งของ RADO Captain Cook Limited Edition เรือนเวลาวินเทจลุคสำหรับนักเดินทางยุคใหม่
ในขณะที่เราอยู่ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความทันสมัยรวดเร็ว บางครั้งเราพบว่าเรากลับถวิลหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายคลาสสิก ถึงแม้ว่าจะมีความสะดวกสบายของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นมาตอบโจทย์การใช้ชีวิต แต่บางครั้งเรากลับมองหาเพียงชั่วขณะหนึ่งที่ได้ระลึกถึงอดีตอันแสนเรียบง่าย
ราโด (RADO) นวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ผู้นำทางด้านวัสดุและดีไซน์ กลับมาอีกครั้งในปีนี้กับการนำประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของแบรนด์ มาผสมผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และความเป็นผู้นำแห่งโลกดีไซน์ ก่อเกิดเป็นเรือนเวลาใหม่ล่าสุด RADO Captain Cook Automatic Limited Edition ประจำปี 2019 ที่เรียกได้ว่าสวยงามเหนือกาลเวลา
นาฬิกาคอลเลคชั่นกัปตันคุกรุ่นแรกถูกผลิตขึ้นระหว่างช่วงปี 1962-1968 โด่งดังด้วยการออกแบบที่กะทัดรัดและคุณสมบัติที่โดดเด่นหลากหลาย จนเมื่อปี 2017 ราโดได้นำเรือนเวลารุ่นกัปตันคุกกลับสู่ คอลเลคชั่นอีกครั้ง และยังคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์ของนาฬิการุ่นแรกเกือบทั้งหมด
RADO Captain Cook Automatic Limited Edition ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,962 เรือนทั่วโลกเท่านั้น และเพื่อเป็นการผสานความวินเทจคลาสสิกเข้ากับความต้องการของคนยุคปัจจุบัน ที่ล้วนต่างมองหาความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เรือนเวลานี้จึงมาพร้อมกับเซตกระเป๋าหนังสีน้ำตาลขนาดกะทัดรัด บรรจุสายหลากสไตล์ให้เลือกตามความชอบ ทั้งสายหนังสีน้ำตาลสไตล์วินเทจ สายสเตนเลส สตีลถักแบบเมลานีส (Milanese) และสายนาโต้สีเขียวเข้ม (Nato) ที่มีความทนทาน อีกทั้งอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย เพื่อเปลี่ยนลุคให้กับนาฬิกาเรือนโปรด
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงาขนาด 37 มม. มีขนาดเท่ากันกับรุ่นดั้งเดิม ฝาหลังตัวเรือนสเตนเลสสตีลประดับด้วยม้าน้ำ 3 ตัว เช่นเดียวกันกับรุ่นต่างๆที่ถูกผลิตขึ้นในช่วงปี1960 พิเศษด้วยการแกะสลักฝาหลังคำว่า “LIMITED EDITION ONE OUT OF 1962” พื้นหน้าปัดซันบรัชสีน้ำตาล ตกแต่งด้วยชื่อ RADO Captain Cook สีเงิน มาพร้อมขอบหน้าปัดแบบหมุนได้สำหรับนักดำน้ำ ตัวเลขแสดงวันที่สีแดง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา อีกทั้งเข็มบอกเวลารูปลูกศรและดาบอันโดดเด่น ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะดั้งเดิมของคอลเลคชั่นกัปตัน คุก ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต และถูกนำมาถ่ายทอดในคอลเลคชั่นประจำปี 2019 นี้เช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาในการใช้วัสดุที่ทันสมัยอย่างไฮเทค เซรามิกสีดำเสริมเข้าไปในขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีล เพื่อช่วยเพิ่มการต้านทานรอยขีดข่วน การใช้กระจกแซฟไฟร์ คริสตัลเพื่อปกป้องหน้าปัดอย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกลไกอัตโนมัติที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง กันน้ำลึก 100 เมตร สนนราคา 69,600 บาท
สัมผัสเรือนเวลาอันโดดเด่นจากคอลเลคชั่นล่าสุดได้แล้ววันนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 02-610-0200