ยังมีแรงงานอีกมากมาย ที่ยังไม่รู้ถึงสิทธิที่ตนเองควรได้รับ ปัญหาการเข้าถึงสิทธิของแรงงานในภาคก่อสร้าง เป็นเรื่องที่ภาคอสังหาริมทรัพย์และสังคม ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามให้ความรู้และความเข้าใจกับแรงงาน ทั้งแรงงานไทย และแรงงานข้ามชาติ เพื่อให้ทราบสิทธิที่พึงได้รับของตน และสามารถเข้าถึงการบริการได้ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน
ในประเทศไทย มีแรงงานในธุรกิจก่อสร้างอยู่ที่ 2.7 ล้านคน โดยเป็นแรงงานไทย จำนวน 2.2 ล้านคน และแรงงานข้ามชาติ 500,000 คน หรือคิดเป็น 17% ของภาคแรงงานทั้งหมด (ข้อมูลจาก กระทรวงแรงงาน) และมีแรงงานข้ามชาติหญิงในธุรกิจก่อสร้างสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่ 200,000 คน หรือ 40% ของแรงงานข้ามชาติทั้งหมด โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เมียนมา และลาว ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิที่พึงมีมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มแรงงานด้วยกัน
การใช้แรงงานที่ถูกกฎหมายและดูแลการจ้างงานให้สวัสดิการอย่างถูกต้องครบถ้วน เป็นเรื่องที่อาจเพิ่มต้นทุนให้กับนายจ้าง แต่ถ้าคำนึงถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิตามสมควร จึงเป็นประเด็นที่ทุกองค์กรในภาคอสังหาริมทรัพย์ ควรให้ความสำคัญ
ดร. สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ กล่าวว่า การให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิแรงงานเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับการนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามที่ UN SDGs กำหนดให้ถึงเป้าหมายไว้ในปี 2030 เป็นโอกาสอันดี ที่มูลนิธิศุภนิมิตฯที่ดำเนินพันธกิจในการช่วยเหลือเด็กมากว่า 70 ปี และมีประสบการณ์การทำงานช่วยเหลือในกลุ่มประชากรข้ามชาติมากกว่า 20 ปี ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและรูปแบบสาธารณสุขมูลฐาน (Development of Primary Health Service of the Migrants) รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (Migrant Working Group - MWG) ที่มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประชากรข้ามชาติได้รับเข้าถึงการคุ้มครองสิทธิ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้น มูลนิธิฯ จึงได้จับมือร่วมกับ แสนสิริ เพื่อระบุตันเหตุปัญหาของการเข้าถึงสิทธิของแรงงานในภาคก่อสร้าง ซึ่งรวมถึงสิทธิในฐานะแรงงานและสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลพื้นฐาน ผ่านการลงเยี่ยมแรงงานเพื่อทำแบบสอบถาม และการให้ความรู้เบื้องต้นแก่ผู้รับเหมาและตัวแรงงาน เป็นการยกระดับสิทธิแรงงานไปสู่ระดับสากล และสร้างมาตรฐานในการสนับสนุนสิทธิแรงงานและสิทธิเด็กในพื้นที่ก่อสร้าง อย่างน้อยการที่เราจับมือกับแสนสิริ ในครั้งนี้ สามารถช่วยให้องค์กรได้เข้าถึงหลายข้อ จาก 17 ข้อของ UN SDGs ที่กำหนดไว้ เช่น การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี Good Health and Well Being การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ Decent Work and Economic Growth รวมทั้ง การลดความเหลื่อมล้ำ Reduced Inequality
เราวางแผนในการดำเนินการ 2 ปี โดยมุ่งเน้นสิทธิแรงงานทางด้านการประกันสังคม การใช้วันลา การจ้างงาน ค่าจ้าง และค่าล่วงเวลา สิทธิสตรี อาทิการจ้างงานที่เท่าเทียม การไม่กระทำความรุนแรง สุขภาพและอนามัยเจริญพันธุ์ สิทธิเด็ก อาทิ สิทธิที่จะมีชีวิตรอด สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง สิทธิที่จะมีส่วนร่วม นอกจากนั้น ยังให้การอบรมทักษะพื้นฐานสำหรับเด็กและทักษะอาชีพเสริมให้แรงงานอีกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2022 จะดำเนินการนำร่องโครงการสนับสนุนสิทธิแรงงานใน 10 ไซต์ก่อสร้างของแสนสิริ และเจาะกลุ่มแรงงานหญิงก่อนเป็นกลุ่มแรก นอกจากนั้นขยายผลต่อไปยังกลุ่มลูกคนงานก่อสร้าง ต่อจากนั้นในปี 2023 จะต่อยอดไปยังแรงงานข้ามชาติชาย และแรงงานไทยในโครงการก่อสร้างอื่นๆของแสนสิริต่อไป เพื่อยกระดับสิทธิแรงงานในภาคก่อสร้างได้อย่างครอบคลุมและเป็นรูปธรรม โดยคาดหวังว่า จะได้ข้อมูลครบถ้วนทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเกี่ยวกับต้นเหตุปัญหาของการเข้าถึงสิทธิแรงงานในภาคการก่อสร้าง สามารถสร้างมาตรฐานการดูแลสิทธิแรงงานก่อสร้างในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และตอบโจทย์พันธกิจของมูลนิธิศุภนิมิต ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของเด็ก การบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน การส่งเสริมความยุติธรรมในสังคม การเสริมสร้างจิตสำนึกแก่มวลชนเพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วม การให้ การแบ่งปันช่วยเหลือเด็กเปราะบางยากไร้ และร่วมพัฒนาสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เพราะคนเราทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนจึงมีสิทธิเข้าถึงสิทธิที่พึงมี เพื่อลดช่วยช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ท่านสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมแก่เด็กและเยาวชนไทย ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถไปที่ www.worldvision.or.th