หนึ่งบวกหนึ่ง ที่ได้มากกว่าสอง! ถอดความสำเร็จ LINE TV และ ONE 31 อีกความร่วมมือต้นแบบในตลาดคอนเทนต์ไทย
ในยุคพฤติกรรมผู้ชมคอนเทนต์ที่ย้ายจากการรับชม “โทรทัศน์ตามผังรายการ” เพียงอย่างเดียว มาดูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเรียกพฤติกรรมนี้ว่า Missing Out Now is My Option เพราะสามารถดูย้อนหลังเมื่อไหร่ก็ได้ จนเกิดคำถามว่าแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นเข้ามาดิสรัปต์โทรทัศน์อยู่ช่วงหนึ่ง แต่ในปัจจุบันธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้ กลับมาครองฐานผู้ชมในมิติที่ต่างออกไป “ความร่วมมือข้ามแพลตฟอร์ม” จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญของของธุรกิจคอนเทนต์ไทย ที่เมื่อเลือก “พาร์ทเนอร์ที่ใช่” ก็สามารถให้ผลลัพธ์ในรูปแบบหนึ่งบวกหนึ่งแล้วได้มากกว่าสอง เพิ่มแรงส่งสู้ศึกครองฐานผู้ชมในตลาดคอนเทนต์ไทย เช่นเดียวกันกับ LINE TV แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ยอดนิยมของคนไทย และ ONE 31 ผู้เป็นทั้งสถานีโทรทัศน์และผู้ผลิตรายการชั้นนำของไทยเช่นกัน
ขยับขึ้นมาเป็นช่องทางหลักของผู้ชม ด้วย Enjoyment Journey ที่แข็งแกร่ง เพิ่มแรงส่งให้ผู้ผลิตคอนเทนต์
กณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนท์ LINE ประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “LINE TV ก้าวขึ้นมาเป็น 1 ในช่องทางหลักของการรับชม ไม่ใช่แค่ช่องทางสำรองเพื่อดูรีรันอีกต่อไป โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่มีการร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์สร้าง LINE TV Original ที่มีฉายเฉพาะบน LINE TV ซึ่งทั้งเราและผู้ผลิตคอนเทนต์ช่วยกันทำให้คอนเทนต์เข้าถึงผู้ชมได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถต่อยอดออกไปได้ ส่งผลให้ LINE TV Original หลายๆ เรื่อง ประสบความสำเร็จในแง่ทั้งจำนวนการรับชม จำนวนผู้ชม และการส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำแพลทฟอร์มออนไลน์”
“นอกจากการมีแพลตฟอร์มวีดีโอแล้ว เรายังมีเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแชทแอพ หรือ LINE Marketing Tools ที่เชื่อมโยงกับฐานผู้ชมที่ใช้บริการต่างๆของไลน์ ที่จะช่วยผลักดันคอนเทนต์เข้าถึงคนดูให้มากและตรงกลุ่มเป้าหมาย พอคนดูมีคอมมูนิตี้ ได้คุย ได้แชร์ ได้อิน ได้ดูซ้ำ เป็นการสร้าง Enjoyment Journey ของการรับชมแบบใหม่ ซึ่งก่อนและหลังชมก็สำคัญไม่แพ้กัน เป็นอีกตัวชี้วัดความสำเร็จของคอนเทนต์ได้เลย ทำให้การรับรู้ของคนดูเปลี่ยนไป จากที่ตอนแรกมีคนมองว่ามาดูช่องทีวีไม่ทันแล้วมาดู LINE TV ไม่กลับไปดูทีวี แต่จริงๆแล้วฐานผู้ชมไม่ได้แยกกันเด็ดขาด หลายคนดูทีวีก่อนแล้วมาดูย้อนซ้ำ บางกลุ่มได้เริ่มดูที่เราก่อนแล้วชอบ ก็กลับไปติดตามที่ช่องทีวีเลยโดยตรงเป็นการช่วยเพิ่มแรงส่งจากออฟไลน์มาออนไลน์ และจากออนไลน์กลับไปสู่ออฟไลน์ได้เป็นอย่างดี”
ต่อยอดความนิยม ทำเป็น Original Content เพื่อผู้ชมออนไลน์
“LINE TV เป็นแพลตฟอร์ม OTT TV ที่บุกเบิกทำ Original Content ในไทย ตัวอย่างของความสำเร็จในเรื่องนี้ก็คือการนำซิตคอม “เป็นต่อ” มาต่อยอดทำเป็น LINE TV Original โดยเริ่มจาก ‘เป็นต่อ Uncensored Pool Party พี่ไม่ลืม’ เมื่อปี 2017 และปีนี้ กับ ‘เป็นต่อ Uncensored สำมะเลเพลย์บอย’ ซึ่งถือเป็นการฉีกแนวการนำเสนอของซิตคอมที่ปกติจะจบในตอน มาสู่การทำให้เป็นซีรีส์ที่ต้องดูกันแบบต่อเนื่อง 8 – 10 ตอนจบ อีกหนึ่งความสำเร็จของความร่วมมือที่สามารถสร้างพฤติกรรมการรับชมบน LINE TV ได้ว่าหากจะดูเป็นต่อ ต้องดูบนแพลตฟอร์มของ LINE TV เท่านั้น ถือเป็นอีกโมเดลของความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์อย่างช่อง ONE 31 และบริษัท เพลย์บอยไทยแลนด์ นำเสนออีกเส้นเรื่องในรูปแบบซีรีส์ เป็นการตอบแทนแฟนคลับเป็นต่อที่สนับสนุนตัวซิทคอมและ LINE TV มาโดยตลอด ถือเป็นอีกหนึ่ง Milestone ของซิตคอมเรื่องนี้ได้เลย” กณพ กล่าว
ONE 31 ในบทบาท “ผู้ผลิตรายการ” กับการต่อยอดไอเดียใหม่เพื่อผู้ชมออนไลน์
ขณะที่ เดียว วรตั้งตระกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถานีโทรทัศน์ช่อง ONE HD 31 กล่าวว่า “ช่อง ONE 31 นอกจากจะเป็นช่องทีวีแล้ว ยังเป็น ‘ผู้ผลิตรายการ’ ด้วย เรามองว่า LINE TV เป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแรงในช่องทางออนไลน์ทีวี มีฐานแฟนกว้าง เป็นช่องทางที่ช่วยในการขยายฐานการรับชมไปสู่ผู้ชมรุ่นใหม่ๆ LINE TV ทำให้เรียนรู้ได้ว่ากลุ่มคนดูที่ผ่านหน้าจอทีวี กับกลุ่มคนดู OTT TV นั้นมีคาแรคเตอร์แตกต่างกัน เป็นที่มาของการทำซีรีส์เป็นต่อ Uncensored สำมะเลเพลย์บอยในปีนี้ เราต้องรู้ เดโมกราฟฟิกของผู้ชมก่อน ซึ่งทาง LINE TV ก็จะมีข้อมูลหรือสถิติซัพพอร์ตเราอย่างดีว่ากลุ่มคนดูมีพฤติกรรมการดูเป็นอย่างไร อย่างการเลือกเป็นต่อ เพราะมันมีอะไรหลายๆให้ต่อยอดให้สนุกมากขึ้นมีโอกาสให้เราขยายไอเดียบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ตรงความชอบของฐานผู้ชมส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ชายเป็นการต่อยอดที่ไม่สามารถหาดูได้บนจอทีวี ซึ่งนอกจากเป็นต่อ Uncensored แล้วยังมี ‘เสือ ชะนี เก้ง Freshy’ ซึ่งเป็น Original Content ที่ดูได้บน LINE TV ที่เดียวอีกด้วย”
เปลี่ยนการ “ดิสรัปต์” เป็น “แรงส่ง” ทำให้ หนึ่งบวกหนึ่ง ได้มากกว่าสอง
ONE 31 ให้ความสำคัญกับวินโดว์ที่เป็น OTT TV ค่อนข้างมาก เพราะมองเห็นจุดที่สามารถเชื่อมโยงและขยายให้กับคอนเทนต์บนจอทีวี โดยพร้อมจะขยายคอนเทนต์บนทีวีผ่าน OTT TV โดยมี LINE TV เข้ามาเป็นพันธมิตรที่สำคัญ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการเติบโตขึ้นของแพลตฟอร์ม OTT TV ได้เข้ามาช่วยสร้างแรงส่งให้เกิดการมอบประสบการณ์การรับชมทีวีในมิติใหม่ที่ไร้รอยต่อกันระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์ได้อย่างไหลลื่น ซึ่ง LINE TV ยังส่ง Original Content อย่าง “ONE YEAR 365 วัน บ้านฉันบ้านเธอ” ไปออกอากาศทางช่อง ONE 31 ด้วย ถือเป็นการแลกเปลี่ยนฐานผู้ชมข้ามแพลตฟอร์มอย่างแท้จริง เปลี่ยนคู่แข่งที่ดูเหมือนจะดิสรัปต์กันให้เป็น “พันธมิตรที่ใช่” เป็นอีกกลยุทธ์ที่ทำให้หนึ่งบวกหนึ่งได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าสองสำหรับตลาดคอนเทนต์ไทย
“ยกตัวอย่างกลยุทธ์หนึ่งบวกหนึ่งมากกว่าสอง อย่างเช่น ‘เมีย 2018’ คือจุดเริ่มต้นของสมการนี้ เรตติ้งทีวี ใน10 Episode แรก มันธรรมดามาก แต่เมื่อคนเริ่มดูย้อนหลังบน LINE TV เริ่มมีการพูดถึงกันเยอะ มันก็กลายเป็น Talk of the town แล้วกลับมาดูผ่านจอทีวีเพิ่มมากขึ้น มันทำให้ Episode ช่วงครึ่งหลังมีเรทติ้งพุ่งขึ้นมาทันที ในขณะที่ออนไลน์ก็พุ่งขึ้นด้วย เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่ามันช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ได้มาแย่งคนดูกันเองเหมือนที่ถูกมอง” เดียว กล่าวสรุปทิ้งท้าย