“จัสติน บีเบอร์” ติดเชื้อไวรัส ‘แรมเซย์ ฮันท์’ ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ต้องเลื่อนทัวร์คอนเสิร์ต
ทำเอาแฟนเพลงต่างตกอกตกใจกันหนักมาก เมื่อนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง “จัสติน บีเบอร์” วัย 28 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัส ทำให้ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และต้องเลื่อนทัวร์คอนเสิร์ตบางส่วน Justice World Tour ออกไป เพื่อเตรียมหาทางรักษาตัว
โดยเจ้าตัวนั้นได้เผยผ่านทางวิดีโอคลิปในอินสตราแกรมของเขา ว่าอาการดังกล่าวเกิดจากการวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรค "แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม" (Ramsay Hunt syndrome)
“อย่างที่เห็นบนใบหน้าผม ผมเป็น โรคแรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) มันส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทใบหูและใบหน้า สังเกตได้จากตาข้างขวาผมไม่สามารถกะพริบได้ และ ปากขวารวมถึงจมูกก็ไม่สามารถขยับได้ เพราะเป็นอัมพาตทั้งหมด”
"มันมาจากไวรัสตัวนี้ที่โจมตีเส้นประสาทในหูของผมและเส้นประสาทบนใบหน้าของผม และทำให้ใบหน้าของผมเป็นอัมพาต"
"เห็นได้ชัดว่าร่างกายไม่พร้อมทำการแสดงได้" นอกจากนี้ เขายังยิ้มและกะพริบตา โดยแสดงให้ผู้ติดตาม 240 ล้านคนเห็นว่าใบหน้าด้านขวาของเขาไม่ขยับ
"มันค่อนข้างซีเรียส อย่างที่คุณเห็น ผมหวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น แต่แน่นอนว่า ร่างกายของผมกำลังบอกผมว่าผมต้องพักผ่อน" เขากล่าว "ผมหวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ ผมจะใช้เวลานี้เพื่อพักผ่อนและผ่อนคลายก่อนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม 100% เพื่อที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่ผมถนัดและเกิดมาเพื่อทำมัน"
”บีเบอร์” เผยอีกว่าตอนนี้เขาได้ออกกำลังกายใบหน้าเพื่อให้ "กลับสู่สภาวะปกติ" แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะฟื้นตัว
ซึ่งโรค แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม เป็นไวรัสที่แทรกซ้อนมาจากการที่โรค "งูสวัด" ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทบนใบหน้าที่อยู่ใกล้หูของคนที่เป็นโรคนี้ "นอกเหนือจากอาการงูสวัดที่เจ็บปวดแล้ว กลุ่มอาการแรมเซย์ ฮันต์ ยังสามารถทำให้เกิดอัมพาตใบหน้าและสูญเสียการได้ยินในหูที่ได้รับผลกระทบ" ตามที่ข้อมูลอ้างอิงจากเมโย คลินิก ในสหรัฐอเมริกา